พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจ(บอร์ดกฟก.) รับทราบผลดำเนินการจัดการหนี้ของเกษตรกร หลังจากคสช.มีคำสั่งแต่งตั้งบอร์ดเฉพาะกิจกฟก.เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 ปฏิบัติหน้าที่ 180 วัน ผ่านมาแล้ว 5 เดือน ซึ่งมีความคืบหน้าการดำเนินงานตามลำดับ ตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเกษตรกรและตรวจสอบข้อมูลหนี้ จากเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย 465,925 ราย มายืนยันตัวตน 290,657 ราย ประสงค์ให้ กฟก.จัดการหนี้ 164,360 ราย ตรวจสอบข้อมูลแล้ว โดยผ่านเงื่อนไข 16 ขั้นตอน จำนวน 85,864 ราย และมีการจัดการหนี้ โดยเจรจากับสถาบันการเงินกำหนดหลักเกณฑ์การซื้อหนี้ ซึ่งทั้ง 2 สถาบันการเงิน ถือเป็นเงื่อนไขการชำระหนี้แทนที่ถูกที่สุด ตั้งแต่มีการชำระหนี้แทน
ส่วนการซื้อหนี้สินเกษตรกรบอร์ดอนุมัติซื้อหนี้ลอตแรกกลุ่มที่จัดการหนี้ได้โดยหลักเกณฑ์ กฟก. จำนวน 739 ราย มูลหนี้ 135,457,984 บาท แบ่งเป็น ธกส.716 ราย มูลหนี้ 129.4 ล้านบาท โดยชำระหนี้แทนในเงื่อนไข 50%ของเงินต้น ตัดดอกเบี้ยและค่าปรับสหกรณ์การเกษตร 23 ราย มูลหนี้ 5.9 ล้านบาท ชำระหนี้แทนในเงื่อนไข 100% ของเงินต้น ตัดดอกเบี้ยและค่าปรับ
นอกจากนี้ บอร์ดยังมีมติรับทราบ กลุ่มที่รอการเจรจาระยะต่อไป ซึ่งคุณสมบัติครบในการจัดการหนี้ได้ 9,942 ราย มูลหนี้ 2,870 ล้านบาท คาดว่าต่อจากนี้ทุกการประชุมประจำเดือนจะสามารถจัดการหนี้ของเกษตรกรได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเจ้าหนี้ได้แจ้งความจำนงมาแล้วว่า พร้อมให้ กฟก.ชำระหนี้แทน อย่างไรก็ตาม เกษตรกรที่ยังไม่มายืนยันสิทธิ 255,816 ราย ทางกระทรวงเกษตรฯ และ กฟก.จะเปิดให้มีการสำรวจข้อมูลอีกรอบระหว่างวันที่ 1-30 พฤศจิกายนนี้ เพื่อให้เกิดความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
สำหรับแผนการฟื้นฟูเกษตรกรหลังจัดการหนี้ คาดว่ากระบวนการจัดการหนี้ กฟก.จะใช้เวลาดำเนินการ 1 เดือน เกษตรกรที่ได้รับการจัดการหนี้แล้วจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูเพื่อประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน สามารถชำระหนี้คืนให้ กฟก.ได้ ในระยะเวลาอันสั้น โดยจะเชื่อมโยงกับศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) เพื่อให้ความรู้เสริมสร้างประสบการณ์ จนเข้าไปสู่การรวมตัวเป็นเกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ในพื้นที่ หรือ ยกระดับไปสู่มาตรฐานจีเอพี และเกษตรอินทรีย์ ต่อไป
ทั้งนี้ งบประมาณการจัดการหนี้ โดยงบประมาณกฟก.มีประมาณ1,300 ล้านบาท หากมีการชำระหนี้แทนจากมูลหนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ 2,870 ล้านบาท หลังเจรจาสถาบันการเงินตามหลักเกณฑ์การเจรจาซื้อหนี้ (ลดต้น) คาดว่างบประมาณเบื้องต้น ยังสามารถใช้งบประมาณของกฟก. จัดการหนี้ได้เพียงพอ แต่ทั้งนี้ ได้สั่งการ กฟก.เตรียมแผนเสนอขอใช้งบประมาณเข้าสู่บอร์ดครั้งต่อไปให้ความเห็นชอบ กรณีหากงบประมาณจัดการหนี้ที่มีอยู่ไม่เพียงพอ
นอกจากนี้คณะกรรมการฯได้พิจารณาขยายเวลาบอร์ด กฟก.อีก 180 วัน โดยเตรียมเสนอครม.เห็นชอบตามคำสั่ง คสช.ที่ 26 /2560 วันที่ 18 พ.ค.60 (ข้อ 8 )ในการขอขยายเวลาการปฏิบัติงานของคกก.กองทุนฟื้นฟูเฉพาะกิจออกไปอีก 180 วัน หลังบอร์ดจะครบกำหนดปฎิบัตตามมติเดิมวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ เพื่อดำเนินการจัดการหนี้ เจรจาซื้อหนี้ สำรวจหนี้ค้าง 2 แสนราย รวมทั้งฟื้นฟูเกษตรกรได้ตามเป้าหมาย รวมถึงจัดเวทีชี้แจงตามเขตจังหวัดราชการ18 ครั้ง
