เงินบาททยอยอ่อนค่า กสิกรฯคาดสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 33.15-33.45 บาทต่อดอลลาร์ฯ

แฟ้มภาพ

“เงินบาททยอยอ่อนค่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดสัปดาห์”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาททยอยอ่อนค่าลงมาที่อยู่ใกล้ระดับ 33.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยทิศทางการอ่อนค่าของเงินบาทสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และสัญญาณที่สะท้อนว่า อาจเริ่มมีการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างงบประมาณปี 2561 ฉบับวุฒิสภาแล้ว นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางยุโรปขยายเวลาสำหรับมาตรการซื้อสินทรัพย์ออกไปอีก 9 เดือน จนถึงเดือนก.ย. 2561 แม้ว่าจะมีการปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ต่อเดือนลงก็ตาม

สำหรับในวันศุกร์ (27 ต.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 33.29 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 33.17 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (20 ต.ค.)

Advertisement

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (30 ต.ค.-3 พ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.15-33.45 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะยังอยู่ที่การประชุมนโยบายการเงินของเฟด (31 ต.ค.-1 พ.ย.) รวมถึงผลสรุปของผู้ที่จะมาเป็นประธานเฟดคนใหม่ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ค่าจ้างแรงงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. อัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (PCE Price Index) ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอจับตาผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางอังกฤษด้วยเช่นกัน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นตลอดสัปดาห์ตามแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,716.03 เพิ่มขึ้น 1.39% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงประมาณ 18.11% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 55,280.88 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 578.25 จุด เพิ่มขึ้น 2.43% จากสัปดาห์ก่อน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นตามแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบันตลอดสัปดาห์ แม้ว่าจะมีแรงกดดันเป็นระยะจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ หลังเงินดอลลาร์ฯ ปรับแข็งค่าขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ ดัชนี SET ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมในช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันตลาดโลกที่เข้ามาหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี รวมถึงผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปที่จะขยายโครงการซื้อสินทรัพย์ออกไปอีก 9 เดือน เข้ามาหนุนภาพรวมตลาดหุ้นในภูมิภาค

Advertisement

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (30 ต.ค.-3 พ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,705 และ 1,690 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,725 และ 1,740 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประกาศผู้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ ตลอดจนผลการประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ย. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางญี่ปุ่น ตัวเลขจีดีพีสำหรับไตรมาส3/60 (เบื้องต้น) ของยูโรโซน และดัชนี PMI ภาคการผลิตของประเทศในแถบยุโรปและเอเชีย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image