ที่มา | คอลัมน์สยามประเทศ มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
แหล่งท่องเที่ยวสร้างใหม่ได้ในลักษณะ “แมนเมด” แต่ควรให้สอดคล้องสังคมวัฒนธรรมที่เคยมีมาก่อน โดยพัฒนาและสร้างสรรค์ขึ้นจากเรื่องราวเล่าขาน หรือคำบอกเล่าต่างๆ ซึ่งรองนายกฯ เศรษฐกิจ กับ รมต. ท่องเที่ยว หารือกันเมื่อเร็วๆ นี้ [ไทยรัฐ ฉบับวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2559 หน้า 9]
เรื่องราวเล่าขาน ส่วนหนึ่งมีบันทึกไว้ในพงศาวดารตำนานนิทานประจำท้องถิ่นกระจายทั่วประเทศ แต่ไม่ครบทุกแห่ง และที่มีก็ไม่สนุกตื่นเต้นเร้าใจเหมือนกันทั้งหมด
ถ้าจะใช้งานจริงๆ อาจเพิ่มเติมได้ให้มีสีสันคัลเลอร์ตามต้องการ
[มีผู้เล่าว่าในเวียดนามขณะนี้ มีการแสดงร่วมสมัยสร้างสรรค์จากคำบอกเล่าเก่าแก่ เป็นกายกรรมบนลำไม้ไผ่ my village เขาร่ำลือกันว่ายอดเยี่ยมเป็นที่มหัศจรรย์อย่างยิ่ง]
ปัญหาของไทยอยู่ที่ไม่มีเหลือแล้วตำนานนิทานท้องถิ่น ส่วนที่เหลือก็ถูกลดทอนทำลาย โดยระบบการศึกษาสมัยใหม่ของไทย ที่เน้นยกย่องชาดกนิทานจากอินเดียที่มากับศาสนา แล้วตัดทิ้งทุกอย่างอันเป็นมรดกตกทอดของท้องถิ่นดั้งเดิม
ทางแก้เฉพาะหน้าอยู่ที่ รมต. ท่องเที่ยว กับ รมต. วัฒนธรรม ต้องร่วมกันแบ่งปันเผยแพร่ประวัติศาสตร์สังคมวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านกิจกรรมเดินทางท่องเที่ยว
ขณะเดียวกันก็บอก รมต. ศึกษา ปรับทัศนะใหม่ทางการศึกษาให้มีตำนานนิทานท้องถิ่น แต่กว่าจะแก้ไขหลักสูตรและวิธีคิดของครูผู้สอนสำเร็จคงต้องรัฐประหารอีกหลายครั้ง
แต่ ก. วัฒนธรรม กับ ก. ท่องเที่ยว ก็ล้วนถูกหล่อหลอมครอบงำจากการศึกษาไทยที่ผ่านมาช้านาน จึงไม่รู้จักและไม่เข้าใจตำนานนิทานท้องถิ่นมากพอจะเอาไปปรับใช้งานเศรษฐกิจสร้างสรรค์
แม้ใน ก. วัฒนธรรม หน่วยงานบางแห่งยังตีไม่แตก จึงไม่เข้าใจถ่องแท้ถึงความสำคัญตำนานกำเนิดมนุษย์จากน้ำเต้าปุงของไทดำ (ในเวียดนาม) ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญมากๆ ของความเข้าใจประวัติศาสตร์ทั้งของไทยและของสุวรรณภูมิในอุษาคเนย์
ตรงนี้เป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์