ผช.ผญบ.โหด แค้นแพ้คดีรุกที่ ตีสาวคู่อริหมดสติหน้าลูก ไม่หนำใจไม้แทงซ้ำลำคอ ดับสยองคาที่

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ต.ท.รัตนพล ธูปแก้ว สารวัตรใหญ่ สภ.บ้านหันห้วยทราย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายที่ทุ่งนาบ้านหนองช่องแมว ม.2 ต.หันห้วยทราย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา จึงพร้อมกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณข้างรั้วกลางทุ่งนา สภาพศพใบหน้าถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์ ลำคอมีไม้เสียบคาอยู่ ทราบชื่อว่า นางสุจิตรา คำสาวงค์ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 174 ม.9 บ้านชลประทาน ต.หันห้วยทราย อ.ประทาย ใกล้กันพบลูกชายและญาติของผู้เสียชีวิตยืนร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า
จากการสอบถามนายไพโรจน์ ทุมวารี อายุ 46 ปี พี่เขยผู้ตายเล่าว่า ผู้ก่อเหตุคือนายสท้าน พานนนท์ อายุ 53 ปี เป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองช่องแมว ต.หันห้วยทราย ก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องผิดใจกันกับนางสุจิตรานานกว่า 3 ปีแล้ว เพราะมีที่นาอยู่ติดกัน ต่อมาผู้ก่อเหตุเข้ามาปักเขตรุกที่ดินของผู้ตาย จนมีการฟ้องร้องกัน กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ศาลจังหวัดบัวใหญ่ตัดสินว่านายสท้าน แพ้คดี แต่ให้ทั้งคู่ไกล่เกลี่ยกันโดยให้นายสท้านจ่ายค่าเสียหายให้นางสุจิตรา 40,000 บาท แต่นายสท้านไม่ยอม แถมยังพูดจาข่มขู่ว่าจะฆ่าให้ตายทั้งครอบครัว

ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ออกไปดูข้าวในทุ่งนาที่ใกล้จะเก็บเกี่ยว โดยมี ด.ช.จิรพัฒน์ แสนศรี อายุ 14 ปี ลูกชายคนเล็กของผู้ตายขับรถจักรยานยนต์พาแม่ไปดูนา อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กม. และมีนายชาญชัย คำสาวงค์ อายุ 17 ปี ลูกชายคนโต กับหลานๆ ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปอีก 1 คัน ขณะนั้นผู้ตายกำลังเดินออกไปถ่ายรูปต้นข้าวเพื่อส่งไปให้สามีชาวต่างชาติดู โดยไปยืนอยู่ใกล้กับรั้วลวดหนามที่กั้นเขตแดนไว้ ระหว่างนั้นนายสท้านเดินตรงมาบริเวณที่นางสุจิตรายืนอยู่ ในมือถือเสียมมาด้วย จากนั้นนายสท้านใช้ด้ามเสียมตีเข้าบริเวณดั้งจมูกของนางสุจิตราอย่างแรง จนนางสุจิตราล้มลงหมดสติ จากนั้นใช้ด้ามเสียมกระหน่ำตีซ้ำบริเวณใบหน้าอย่างไม่ยั้งจนด้ามเสียมหัก ทำให้นางสุจิตราเสียชีวิต จากนั้นใช้ด้ามเสียมที่หักเสียบเข้าไปบริเวณลำคอซ้ำอีกเพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิตแน่นอน ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นต่อหน้าลูกชายทั้ง 2 คนของนางสุจิตรา ที่ยืนดูอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่กล้าเข้าไปช่วยแม่ เพราะผู้ก่อเหตุมีอาวุธอยู่ในมือ หลังก่อเหตุนายสท้านได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.บ้านหันห้วยทราย เพื่อรับโทษที่ตัวเองได้ก่อขึ้น

ต่อมาเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานนครราชราชสีมา เข้ามาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุและอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนศพผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งไปยัง รพ.มหาราชนครราชสีมาเพื่อตรวจสอบการเสียชีวิตต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image