เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่สำนักงานธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) อาคารสยามพิวรรธน์ นายอูลริค ซาเกา ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำประเทศไทย มาเลเซีย และความร่วมมือในภูมิภาค พร้อมด้วยนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) นางนาเดีย โยวิค นักวิเคราะห์ด้านการประกอบธุรกิจ ธนาคารโลก และนายเกียรติชัย โสภาเสถียรพงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง ร่วมกันแถลงข่าวผลการจัดอันดับความยาก-ง่าย ในการประกอบธุรกิจ Doing Business 2018 โดยประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจดีขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยขยับจากอันดับ 46 ในปีที่ผ่านมา มาเป็นอันดับที่ 26 จาก 190 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการปรับอันดับนี้ขยับขึ้น 20 อันดับ มีคะแนนเป็นที่ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย โดยมีคะแนนรวมปีนี้อยู่ที่ 77.44 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 72.53 คะแนน
นายทศพรกล่าวว่า และมีผลการจัดอันดับด้านรายด้าน ดีขึ้นถึง 6 ด้าน ได้แก่ การเริ่มต้นธุรกิจ การขอใช้ไฟฟ้า การได้รับสินเชื่อ การคุ้มครองผู้ลงทุนเสียงข้างน้อย การชำระภาษี และการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง ขณะที่บางด้านแม้อันดับจะไม่ดีขึ้น แต่มีคะแนนสูงขึ้น ซึ่งเวิลด์แบงก์ถือว่ามีการปฏิรูป ได้แก่ ด้านการจดทะเบียนที่ดิน และด้านการแก้ไขปัญหาล้มละลาย
“การจัดอันดับ Doing Business ในปีนี้ ประเทศไทยขยับอันดับขึ้น 20 อันดับ จากอันดับที่ 46 มาเป็นอันดับที่ 26 จาก 190 ประเทศทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการปลดล็อกหรือการแก้ปัญหากฎหมายการประกอบธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ภายในวันนี้หลังจากแถลงข่าวเสร็จจะมีประชุมร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่กระทรวงการคลัง เพื่อหารือเรื่องนี้ต่อ” นายทศพรกล่าว
