ทั้งๆที่ “ฝนตก” ณ กระทรวงแรงงาน แล้วเหตุใด “ฟ้าร้อง” จึงตามมา ยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทำให้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ กลายเป็นตำบลกระสุนตก
อาจเพราะว่าพลันที่ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เดินทางไปยื่นใบลาออก เมื่อเวลา 15.30 น.ของวันที่ 1 พฤศจิกายน
เวลา 17.10 น. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ก็ถูกเรียกตัว
ไม่มีใครทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกตัว พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ไปยังตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ด้วยเรื่องอะไร
แต่ “ข่าวลือ” ก็ “ปลิวว่อน” ว่าอาจต้องแหวกเมฆไปอยู่กระทรวงแรงงาน
เป็นไปได้อย่างไร
น้ำหนักที่มากสุดของ “ข่าวลือ” อันเกี่ยวกับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ กลับมาจากพรรคประชาธิปัตย์
โดยเฉพาะเสียงจาก นาย ถาวร เสนเนียม
ตั้งข้อสังเกตตั้งแต่เรื่องราคา “ยางพารา” กระทั่งถึงเรื่องราคา “ข้าว”
อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ
ตั้งแต่ยังนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กระทั่งมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่ว่า “ยาง” ไม่ว่า “ข้าว”
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายถาวร เสนเนียม มีบทบาทมากเพียงใดในห้วงแห่ง “ชัตดาวน์” ของ “กปปส.”
แทบจะเป็นการพูดแทน “ลุงกำนัน” ด้วยซ้ำ
ปมประเด็นอยู่ที่ “สถานะ” ของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ กับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา แนบแน่นอย่างยิ่ง
มากกว่า พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล
เห็นได้จากเมื่อมีการ ปรับครม. เดือนสิงหาคม 2558 ก็ย้ายจากกระทรวงพาณิชย์ขึ้นชั้นมาอยู่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อันถือเป็นกระทรวง “เกรด A” สะท้อนความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ
หากจำเป็นต้องย้ายออกจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปอยู่กระทรวงแรงงาน อาจมองได้ว่าเป็นการลด “เกรด”
อาจเป็น “ปัญหา” เพิ่มจากกรณี “บิ๊กบี้”
