พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงกระแสข่าวมีชื่อถูกการปรับออกจากคณะรัฐมนตรีนั้น ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ไม่เคยพูดหรืออะไรเลย สมัยที่มีการปรับตนจากกระทรวงพาณิชย์ มาอยู่กระทรวงเกษตรฯ ก็ไม่เคยมีถามสักคำ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ จะตัดสินใจเอง อย่างไรก็ตามคิดว่าพล.อ.ประยุทธ์ รับฟังรอบด้านอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวแล้ว ตนเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมาโดยตลอด และเชื่อว่าเกษตรกรก็เห็น แต่คนที่ออกมาพูดส่วนใหญ่ ไม่ได้อยู่ในภาคของเกษตรกร
“ผมเรียนด้วยความสัตย์จริงว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับผม ที่ผมมีรายชื่อติดโผทุกครั้ง อาจเพราะผมจะใกล้ชิดกับพล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรก็ตามในส่วนคนที่ชอบออกมาโจมตีด้านผลงานของผม ผมอยากให้คนประเมินเป็นคนที่อยู่ในห่วงโซ่มากกว่า เพราะหลายอย่างที่พูดมาไม่เป็นความจริง ส่วนการปรับครม.ครั้งนี้ จะมีการลดสัดส่วนรัฐมนตรีสายทหารหรือไม่นั้น เรียนตามตรงว่าไม่ทราบ แต่หากมีการปรับผมออกก็พร้อมทำตามหน้าที่ ตามคำสั่งผู้บัญชาการที่มอบหมาย เพราะผมเป็นทหาร”พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
สำหรับเรื่องเรียกร้องปลดนายธีธีช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และพล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) กยท. เนื่องจากแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำไม่ได้ นั้น ต้องเรียนว่า เรื่องราคายาง มีกฎหมายของกยท.รองรับอยู่ ตนคงไม่สามารถสั่งการอะไรได้มาก ซึ่งตามกฎหมายถือเป็นอำนาจของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ภายใต้คณะกรรมการ (บอร์ด) กยท. เป็นผู้ดูแล อย่างไรก็ตาม ได้เชิญทั้งบอร์ด และผู้ว่าการกยท. มาหารือเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อสร้างความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาไปสู่พี่น้องเกษตรกรให้รับทราบอย่างถูกต้อง รวมทั้งได้สั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาพื้นที่ปลูกยางที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ยางล้น ตลอดจนการผลักดันใช้ยางพาราในประเทศให้เพิ่มขึ้นเป็น 30% โดยเฉพาะในส่วนของการทำถนน ภายใน 1 เดือน กรมทางหลวงจะจัดทำมาตรฐานในการจัดใช้ยางทำถนนให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณใช้ยางได้อย่างมาก และได้สั่งการให้กยท.ไปดำเนินการในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรในสวนยาง โดยเร่งเพิ่มประสิทธิภาพ และดำเนินการในโครงการที่มีอยู่ให้เป็นไปตามตามแผนงาน
