‘แกรนด์ยูนิแลนด์’ผุดแอมไชน่าทาวน์มิกยูส4พันล้านบ.ใจกลางเยาวราช เล็งขยายต่อทำเลราชประสงค์

นายสุวรรณ เลิศปัญญาโรจน์ ประธานกรรมการ บริษัท แกรนด์ ยูนิแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นมีการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง และหากภาครัฐมัมาตรการช้อปช่วยชาติออกมาก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมเพิ่มขึ้นเพราะมีเงินเจ้าไปหมุนในระบบเศรษฐกิจ ส่งผลให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงที่เหลือของปีดีขึ้นตาม ซึ่งในส่งนของบริษัทมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนมากขึ้น จึงได้พัฒนาโครงการ แอมไชน่าทาวน์ มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท เป็นโครงการมิกซ์ยูสบนพื้นที่กว่า 3 ไร่ บนถนนเจริญกรุง ใกล้วัดมังกรกมลาวาสและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินวัดมังกรกมลาวาส ซึ่งถือเป็นที่ดินผืนสุดท้ายในเยาวราช ความคืบหน้ากาอสร้าง 30% ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าจะแล้วเสร็จในสิ้นปี 2561 และพร้อมเปิดเต็มรูปแบบทุกส่วนในเดือนมีนาคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง – ท่าพระเปิดให้บริการ

สำหรับโครงการแอมไชน่าทาวน์ ประกอบด้วย ได้แก่ ศูนย์การค้า เป็นศูนย์รวมของฝากชื่อดังในย่านเยาวราช อาทิ กระเพาะปลา ใบชา หมูแผ่น สมุนไพรจีน สุราจีน รวมทั้ง ร้านท้องถิ่นสตรีทฟู้ดระดับตำนานของเยาวราช ย่านวรจักร แยกเฉลิมบุรี และเวิ้งนาครเขษม และศูนย์อัญมณี ร้านทอง เป็นต้น และโรงแรม โดยได้ลงนามสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจกับกลุ่มธุรกิจโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเทลส์ กรุ๊ป เพื่อเปิดให้บริการโรงแรมระดับ 4 ดาว ในชื่อ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ไชน่าทาวน์ จำนวน 224 ห้อง เน้นจับกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยว และนักธุรกิจชาวต่างชาติ อัตราค่าห้องพักต่อคืนจะเริ่มต้นที่ 1,800 บาท คาดว่าจะมีอัตราในการเข้าพักไม่ต่ำกว่า 80% ตลอดทั้งปี รวมทั้งที่อยู่อาศัยเป็นคอนโดมิเนียม โครงการ แอม ไชน่าทาวน์ เป็นอาคารโลวไรส์สูง 8 ชั้น พื้นที่รวมจำนวน 46 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 21-25 ตารางเมตร เป็นคอนโดมิเนียมแบบตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ในราคาเริ่มต้นที่ 2.9 ล้านบาท เปิดจองในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้

นายสุวรรณ กล่าวว่า บริษัทแผนที่จะนำโครงการแอมพาร์ค แอท สามย่าน มูลค่าราว 700-800 ล้านบาท จัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(รีท) ร่วมกับผู้ประกอบการรายอื่น คาดว่าจะสามารถจำหน่ายหน่วยลงทุนได้ในปี 2561 ซึ่งบริษัทจะนำเงินทุนที่ระดมได้ไปพัฒนาโครงการในอนาคต โดยปี 2561 มีแผนจะพัฒนา ฮาเบอร์ 55 ที่หัวหิน เป็นศูนย์การค้า ร้านอาหาร และศูนย์ขำหน่ายอาหารทะเล มูลค่าราว 300 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ เน้นทำเลย่านใจกลางเมือง หรือผังเมืองสีแดง อาทิ ย่านราชประสงค์ เป็นต้น สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมราว 300 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image