เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ที่เกิดพายุดีเปรสชั่น หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดข้างเคียง ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมเฉียบพลัน ตลอดค่ำคืนที่ผ่านมามีฝนตกหนักในเขตพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยในขณะนี้ได้รับรายงานว่า เกิดอุกทกภัยน้ำท่วมเฉียบพลัน ในเขตพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอบางสะพาน บ้านเรือนและพื้นที่เกษตรถูกน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร และมีต้นไม้ล้มขวางถนนเป็นอุปสรรคต่อการสัญจรไปมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ได้รับรายงานแล้ว จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยให้เฝ้าฟังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกช่วยเหลือประชาชน พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือ ในการช่วยขนย้าย ประชาชน สิ่งของตามบ้านเรือน และสถานที่ราชการ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานราชการอื่น และภาคประชาชน ระบายน้ำ และบรรจุกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าสู่พื้นที่สำคัญ
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ กล่าวด้วยว่า หลังจากที่เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา ผบ.ตร.ได้ไปตรวจพื้นที่ที่ประสบภัย น้ำท่วม ในเขตพื้นที่ จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ อีกทั้งยังได้สั่งการให้ทุกโรงพักที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เปิดโรงพักเพื่อเป็นที่พักอาศัยชั่วคราวให้กับประชาชน พร้อมให้บริการน้ำดื่ม อาหาร ยารักษาโรค ตลอดจนของยังชีพต่างๆให้แก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
“ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าโมก ภ.จว.อ่างทอง ได้เข้าสำรวจ โรงเรียนวัดอัมพวัน พบว่า อาคารเรียนชั้นล่าง 5 ห้องเรียนได้รับผลกระทบน้ำท่วม และมีการชะลอการเปิดเรียนเป็นวันที่ 13พฤศจิกายน 2560 สภาพโดยรวมน้ำลดลงแห้งแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าโมก ได้ดำเนินการช่วยเหลือเข้าทำความสะอาดอาคารเรียน ระหว่างที่ยังไม่เปิดเรียนได้ให้ใช้สถานที่ สภ.ป่าโมก รองรับ อีกทั้งได้จัดรถตู้รองรับการเดินทางระหว่างโรงเรียนและ สภ.ป่าโมก โดยทาง สภป่าโมก ได้จัดเตรียมอาหารกลางวันสนับสนุน และเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจบริเวณโรงเรียนทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อป้องกันอาชญากรรม” รองโฆษกตร.กล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์นห่วงเป็นใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่ประสบภัย ดำเนินการเชิงรุกในลักษณะเดียวกัน เพื่อดูแลแก้ไขปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยนอกเหนือจากการช่วยเหลือขณะที่ประสบภัยแล้ว หลังจากที่สถานการณ์คลี่คลาย ผบ.ตร.ยังได้สั่งการจัดเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกตรวจตรา ฟื้นฟู เฝ้าระวังป้องกันอาชญากรรมที่อาจจะอาศัยจังหวะช่วงเวลาดังกล่าวก่อเหตุเกิดขึ้น และขอให้พี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนกตกใจ มีสติ อย่าหลงเชื่อ ข้อมูลที่บิดเบือน และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องจากทางราชการเท่านั้น
