จังหวะ การเมือง ปลดล็อก ปรับ”ครม.” กับ พรรคทหาร

การจัดตั้ง “พรรคทหาร” มีความสัมพันธ์กับ 2 ปรากฏการณ์อันอึกทึกครึกโครมอย่างยิ่งนับแต่ย่างเข้าเดือนพฤศจิกายน

1 การปลดล็อกพรรคการเมือง

1 การปรับ ครม.

ผลการประชุมของ คสช.เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ปรากฏออกมาแล้วว่า “สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย บ้านเมืองยังอยู่ระหว่างห้วงเวลาที่ยังไม่ควรมีความขัดแย้งทางการเมืองหรือทางอื่นใด กฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้ายที่จำเป็นต่อการเลือกตั้งก็ยังไม่เรียบร้อย

Advertisement

“จึงขอให้การปลดล็อกที่พูดกันรอไปอีกระยะ อย่าตื่นเต้น กังวล”

เท่ากับเป็นการส่ง “สาร” ไปยังพรรคการเมือง และนักการเมืองโดยตรง คำว่า “อีกระยะ” จึงมิได้มีความหมายเพียง “กฎหมายลูก” อย่างที่กล่าวอ้าง

หากยังอยู่ที่กระบวนการ “ปรับ ครม.”

หากยังอยู่ที่ “ความพร้อม” อย่างเต็มเปี่ยมในการจัดตั้ง “พรรคการเมือง” ขึ้นมา

จากนี้ จึงเห็นได้อย่างเด่นชัดว่า คสช.ยังถือเอา “การเลือกตั้ง” เป็นยุทธศาสตร์ที่จะก้าวไปให้ถึงและบรรลุให้จงได้ตามที่เคยระบุหลังเดือนพฤษภาคม 2557

เราจะทำตาม “สัญญา” ขอเวลาอีกไม่นาน

จากเดือนพฤษภาคม 2557 มายังเดือนพฤษภาคม 2560 เป็นเวลา 3 ปี คำว่า “ไม่นาน” ของ คสช.จึงน่าอยู่ที่ไม่เกินเดือนพฤษภาคม 2561

ครบ 4 ปีพอดี

กระนั้น สัญญาณ 1 ที่จะอ่านได้ว่า คสช.มีความมั่นใจและพร้อมที่จะทำตาม “สัญญา” มากน้อยเพียงใดจำเป็นต้องดูจากกระบวนการ “ปรับ ครม.”

เด่นชัดยิ่งว่า น่าจะเป็น “ปรับใหญ่”

สัญญาณเตือนเพื่อนพ้อง น้องพี่ เท่ากับยืนยันว่าสถานการณ์ในแบบที่ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ประสบมาแล้วจะต้องเกิดขึ้นอีก

ความโน้มเอียง คือ แนวทาง “ประชารัฐ”

ถามว่าแนวทาง “ประชารัฐ” คืออะไร คือการประสานระหว่าง “รัฐราชการ” กับ นักธุรกิจที่เรียกว่า “ภาคเอกชน” อันดำรงอยู่ผ่าน 3 สดมภ์หลัก

1 หอการค้า 1 สภาอุตสาหกรรม และ 1 สมาคมธนาคาร

แนวทางนี้ในห้วงที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจยังไม่แจ่มชัด

แต่หลังการเข้ามาของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในเดือนสิงหาคม 2558

มีความแจ่มชัด

ความแจ่มชัด 1 คือการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ในที่ประชุม สปช.อันเท่ากับเป็นการคว่ำ “ปฏิญญาโตเกียว” บนพื้นฐานที่ว่า

“เขาอยากอยู่ยาว”

การอยู่ยาวในที่นี้เห็นได้จากการผลักดันนโยบายทางเศรษฐกิจเกือบทุกนโยบายที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เคยมีส่วนร่วมกับพรรคไทยรักไทยในอดีต ภายใต้แนวทาง “ประชารัฐ”

เป้าหมายก็คือ ต้องการสยบและลบ “ประชานิยม” ออกไป

หากการปรับ ครม.ในอีกไม่นานเป็นไปตาม “ยุทธศาสตร์” นี้ เท่ากับจะใช้แนวทาง “ประชารัฐ” เข้าไปสู่การเลือกตั้ง

จากนี้จึงเห็นหรือยังว่า พรรคทหารจะเกิดขึ้นหรือไม่ มีความพร้อมมากน้อยเพียงใดต้องประสานมติของ คสช.เข้ากับกระบวนการปรับ ครม.

เพราะทุกกระบวนท่ามี “เป้าหมาย” เดียวกัน

การปรับ ครม.เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง การยื้อระยะเวลาปลดล็อกก็เพื่อ “แช่แข็ง” พรรคการเมืองอื่น หากทุกอย่างสมประสงค์จึงจะเป็นก้าวย่างของ “พรรคทหาร”

ยืนยันความพร้อมอย่างเต็มเปี่ยมใน “การเลือกตั้ง”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image