เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน ร.ต.อ.อุดม เพ็ชรรัตน์ รองสารวัตรสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้เรือภายในคานเรือสิกิจ ทางเข้าท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลาภูเก็ต ต.รัษฏา อ.เมืองภูเก็ต หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลรัษฏานำรถดับเพลิงเข้าฉีดสกัด ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุภาย พบเรือต่อใหม่ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนคาน ถูกเปลวเพลิงลุกใหม่ที่ส่วนท้ายชั้นสองและเริ่มลุกลามไปบริเวณกลางเรือ เจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิง ของเทศบาลตำบลรัษฎา 3 คัน และรถดับเพลิงของ อบจ.ภูเก็ต อีก 1 คัน รวมเป็น 4 คันเข้าฉีดสกัด เปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเปลวเพลิงจึงสงบลงเหลือแต่กลุ่มควันเจ้าหน้าที่จึงฉีดน้ำเลี้ยงจนดับสนิท
ตรวจสอบภายในเรือพบบริเวณเพดานและพื้น ที่เป็นไม้และไฟเบอร์ของตัวเรือชั้นสองตั้ง แต่ส่วนท้ายไปถึงตรงกลางของตัวเรือ ได้รับความเสียหาย ประเมินเป็นมูลค่าประมาณ 1 แสนบาท ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ส่วนโครงสร้างของเรือนั้นไม่ได้รัความเสียหายเนื่องจากสร้างด้วยเหล็กซึ่งมีความแข็งแรง
สอบถามเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุคนงานต่อเรือได้ทำการตัดช่องหน้าต่างเรือบริเวณส่วนท้ายชั้นสองทำให้ประกายไฟกระเด็นไปติดกับส่วนที่เป็นไฟเบอร์และไม้บุเพดานที่ยังติดตั้งไม่เสร็จ ก่อนที่ไฟจะลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนคนงานต้องหนีลงมาจากตัวเรือ
ทั้งนี้ตัวเรือดังกล่าว ได้รับการว่าจ้างให้ต่อเป็นเรือท่องเที่ยวมูลค่าประมาณ 30 – 40 ล้านบาท โดยมีสัญญาว่าจ้างกำหนดแล้วเสร็จประมาณ 1 ปี ขณะนี้ได้ทำการต่อมาและ 4 เดือน ก่อนจะเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว ซึ่งเคราะห์ดีที่ไฟไม่ลุกลามไปติดลำอื่นที่อยู่ข้างเคียง อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ก่อนให้เจ้าของเรือติดต่อมาพูดคุยว่าจะดำเนินการอย่างไร หากไม่ติดใจสาเหตุก็ให้ตงลงกันเองกับผู้รับเหมา หากติดใจสาเหตุก็พร้อมจะดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอน
