เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 7 ธันวาคม ที่บ้านแหลมสันติ หมู่ที่ 5 ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุพัชรพงศ์ วรประดิษฐ์ นายอำเภอละแม พร้อม น.ส.ราตรี จันทรัตน์ ประมง อ.ละแม ได้เดินทางไปตรวจสอบซากโลมาขนาดใหญ่ที่ลอยมาเกยตื้นบนหาดละแม หลังได้รับแจ้งจากนายสุชาติ แสงอรุณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 และนายเริงศักดิ์ รัตนนิพนธ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่พบ และช่วยกันนำซากโลมาขึ้นมาจากท้องทะเลที่โลมาถูกคลื่นซัดลอยเข้ามาใกล้หาดละแม บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร พบชาวบ้านกำลังช่วยกันพลิกซากโลมาขนาดใหญ่ เมื่อตรวจสอบก็พบว่าเป็น “โลมาอิรวดี” หรือ “โลมาสีชมพู” คาดว่าเพิ่งตายได้ไม่นาน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า น.ส.ราตรี ได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นโลมาเพศผู้ อายุ ราว 15-20 ปี ลำตัวยาว 2.2 เมตร น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ผิวสีชมพูสวยงามมาก ที่ปลายโคนหางมีบาดแผลขนาดใหญ่ยาวประมาณ 15 เซ็นติเมตร กว้างประมาณ 10 เซ็นติเมตร มีไส้ทะลักออกมา ส่วนอื่นไม่มีร่องรอยบาดแผล จึงสรุปสาเหตุการตายเบื้องต้นว่า คงถูกคลื่นซัดไปกระแทกของแข็งในขณะที่ว่ายน้ำอยู่ในทะเล หรืออาจถูกใบพัดเรือ หรือถูกโขดหินที่แหลมคม จนทำให้ส่วนหางไม่สามารถใช้การได้ ทำให้โลมาเกิดหลงทาง เมื่อมาเจอคลื่นลมแรงที่กำลังจึงทำให้เสียชีวิตก่อนถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยหาดละแม
นายเริงศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ช่วงเที่ยงตนเห็นปลาขนาดใหญ่ลอยมาใกล้ชายหาด จึงรีบนำเรือออกไปตรวจสอบ พบเป็นโลมาอิรวดีที่ไม่เคยพบเห็นในทะเลชุมพร ตน และนายสุชาติจึงช่วยกันใช้เชือกมัดลากเข้ามายังฝั่งแล้ว ก่อนแจ้งนายอำเภอ และประมงอำเภอขอให้มาตรวจสอบ
ด้าน น.ส.ราตรี กล่าวว่า โลมาสีชมพู หรือโลมาอิรวดี ถือเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธ์ เหลือไม่กี่ตัวเท่านั้นในท้องทะเลไทย โดยปกติจะไม่พบในทะเลชุมพร แต่จะอยู่แถวทะเลสงขลาลงไป คาดว่าโลมาตัวนี้ได้รับบาดเจ็บ และหลงทาง โดยอายุของปลาขนาดนี้ถือว่าน่าเสียดาย เพราะกำลังอยู่ในวัยเจริญพันธ์ จากนี้จะนำซากส่งศูนย์วิจัยประมงทะเล ภาคใต้ตอนบนเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
