จากน้องเมยถึงนาฬิกาหรู เปิดใจ ‘ป้ามล’ พร้อมเปลืองตัว ล่าชื่อจี้ ‘บิ๊กป้อม’ ลาออก

ทิชา ณ นคร

ภายหลังจากเปิดแคมเปญบนเว็บไซต์ change.org รณรงค์ให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา

ทิชา ณ นคร หรือ ป้ามล ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิเด็ก ผู้หญิง กล่าวเปิดใจกับมติชนออนไลน์ถึงการโพสต์ข้อความ “สนับสนุน ทิชา ณ นคร โดยลงชื่อใน Change.org ให้รองนายกประวิตรฯลาออก ยังเปิดลงชื่ออยู่” ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Thicha Nanakorn ว่า หลังจากการเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหารเมย นายภคพงษ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ 1 ก็ติดตามดูอย่างใกล้ชิด ผลการชันสูตรศพล่าสุดยืนยันว่าน้องเมยไม่ได้เจ็บป่วย ไม่ได้อ่อนแอ แต่ตายจากการถูกทำร้าย ซึ่งเราก็เชื่อมาตลอดหลังจากรู้ข่าวการเสียชีวิต และฟังจากองค์ประกอบที่ครอบครัวสื่อสารออกมา จนมาชัดเจนจากผลชันสูตรดังกล่าว ทั้งนี้ เมื่อรู้ผลดังกล่าวเราได้ถอยกลับไปตรวจสอบท่าทีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ตอนแรก ซึ่งก็เคยอยู่ในภารกิจแบบนี้ ผ่านเรื่องราวของโรงเรียนเตรียมทหารมา มีข้อมูลและรับรู้ว่าอะไรคือความถูกต้องอะไรไม่ถูกต้อง เพียงแต่ไม่กล้าหาญที่จะปกป้องผู้สูญเสีย มิหนำซ้ำยังให้สัมภาษณ์ที่ทำให้สังคมไขว้เขว ทำให้สังคมเชื่อว่าเป็นการตายที่ไม่เกี่ยวกับระบบการเรียนของนักเรียนทหาร

นางทิชากล่าวอีกว่า เรื่องนี้ยังประจวบกับที่รองนายกรัฐมนตรีต้องประสบกับความเทาดำในเรื่องของผลประโยชน์ เรื่องของงบประมาณ ก็ทำให้ตนเกิดความรู้ว่าเราจะต้องทนอีกนานสักเท่าไหร่ จึงเปิดตัวแคมเปญรณรงค์ดังกล่าว แม้ไม่รู้หรอกว่าการรณรงค์ดังกล่าวจะได้ผลแค่ไหน แต่อยากส่งสัญญาณว่าอย่าเล่นกับความรู้สึกของครอบครัวผู้ตาย ต้องคืนความเป็นธรรมให้ครอบครัวผู้ตาย ไม่ว่าจะขอโทษ ให้เกียรติ ทำอะไรที่คิดว่ามนุษย์คนหนึ่งพึงกระทำต่อผู้สูญเสีย ซึ่งตอนนี้ยังมีเวลา

“น่าจะมีสักครั้งในประเทศไทยที่ผู้นำระดับสูง ซึ่งนำพาสังคมไปหลงทิศผิดทาง จะออกมาขอโทษและลาออก ดิฉันมองว่านี้จะเป็นการลงจากหลังเสืออย่างสง่างาม ซึ่งอยากให้ทำเป็นของขวัญคนไทยสักครั้ง ดีกว่าทำความผิดต่อไป เสมือนประโยคที่ว่าเริ่มต้นจากการทำความผิดเล็กๆ ที่สุดต้องทำความชั่วเพื่อปกปิดความผิดตัวเอง” นางทิชากล่าวและทิ้งท้ายว่า

Advertisement

“เชื่อว่าคนอีกหลายล้านคนที่รู้เรื่องแต่ไม่ได้ลุกไม่ขึ้น ก็ไม่ได้แสดงว่าไม่มีความรู้สึกนะ ขณะที่ตนภายหลังเปิดตัวแคมเปญรณรงค์ ก็มีอินบ็อกซ์เข้ามาในเฟซบุ๊กเพื่อเตือนด้วยความหวังดี ว่าทำไมไม่เรียกร้องผ่านการรวมตัวของกลุ่มใหญ่ๆ ไม่ควรเปิดหน้าเรียกร้องเพียงลำพัง เพราะอาจได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ดี ป้าพร้อมเปลืองตัว คิดว่าสถานการณ์แบบนี้ควรมีคนเปลืองตัวบ้าง แม้จะมีเพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมสถานการณ์เยอะ แต่คิดว่าเอาทุกคนมาเปิดหน้าไม่ทันการณ์ ดั่งประโยคที่ว่า จุดเทียนกลางสายฝน ดีกว่าก่นด่าท่ามกลางความมืด”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเปิด แคมเปญให้รองนายกประวิตรฯลาออก ณ เวลา 13.27 น. วันที่ 11 ธันวาคม มีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนแคมเปญนี้ 689 คน

 

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image