ดีป้าจับมือสรรพากรลดภาษีเอสเอ็มอี200% หนุนใช้ซอฟแวร์ไทย

นายพรชัย หอมชื่น ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้กับการทำธุรกิจ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งล่าสุดได้มีมาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ 2 เท่าของค่าใช้จ่าย หรือ 200% สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท เมื่อซื้อหรือใช้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากนักพัฒนาหรือผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยที่ขึ้นทะเบียนอยู่กับดีป้าขณะนี้มีอยู่กว่า 300 ราย ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีภาระค่าใช้จ่ายลดลง และทำให้ผู้ประกอบการซอฟแวร์ได้ขยายฐานลูกค้าใหม่ มาตรการนี้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ระหว่าง 2560-2562 คาดว่าจะมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าร่วมมากกว่า 1,000 ราย

นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก กรมสรรพากร กล่าวว่า สำหรับเอสเอ็มอีที่จะเข้าร่วมโครงการต้องจดทะเบียนนิติบุคคล ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 5 ล้านบาท รายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้เอสเอ็มอีลดภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนการดำเนินงานได้ คาดว่าจะมีเอสเอ็มอีสนใจเข้าร่วมจำนวนมาก และคาดว่าจะทำให้มีเอสเอ็มอีจดทะเบียนมากขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 70,000-80,000 ราย จากเอสเอ็มอีทั่วประเทศราว 3 ล้านราย โดยเอสเอ็มอีที่ซื้อซอฟแวร์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ จนถึงสิ้นปี 2562 โดยสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 100% ในปีแรก และหักค่าเสื่อมอีก 100% ในช่วง 3 ปี วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีโครงการลดหย่อยภาษสำหรับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ

นายปรนนท์ ฐิตะวรรโณ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดซอฟแวร์ของผู้ประกอบการไทยมีมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ที่ผ่านมาตลาดค่อนข้างทรงตัว ซึ่งจากมาตรการนี้ที่มีการสนับสนุนให้เอสเอ็มอีมีการใช้ซอฟแวร์เพื่อการทำธุรกิจ คาดว่าจะเข้ามากระตุ้นตลาดและทำให้ตลาดมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นในะระยต่อไป สำหรับซอฟแวร์ที่จำเป็นกับธุรกิจเอสเอ็มอี อาทิ การทำบัญชี การจัดการสต็อก ระบบบริหารในองค์กร เป็นต้น โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ราว 50,000-100,000 บาท หากธุรกิจเอสเอ็มอีซื้อมาใช้สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีตามกรอบในวงเงินที่กำหนด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image