‘เมย์แบงก์’คาดดัชนีหุ้นคึกคักช่วง 2 วีกสุดท้ายปลายปี-ระบุปีหน้าลุ้นดัชนีทำสถิติสูงสุดใหม่

นายสรพล วีระเมธีกุล ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายนี้คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะลดสัดส่วนการขายสุทธิอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนสถาบันภายในประเทศจะเพิ่มสัดส่วนการซื้อสุทธิในตลาดหุ้น สอดคล้องกับช่วงที่ผ่านมา โดยประเมินว่าดัชนีฯจะเคลื่อนไหวในระดับ 1,720-1,730 จุด และคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสัญญาณเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น ทั้งยอดรวมการส่งออก 10 เดือนแรก ที่มีมูลค่า 1.95 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.7% ทำจุดสูงสุดในรอบ 6 ปี รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เร่งตัวขึ้น 4 เดือนติดต่อกัน และการขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีก จึงคาดว่าจะมีแรงส่งต่อเนื่องให้การบริโภคภายในประเทศในช่วงต้นปีหน้าขยายตัวดีขึ้น

“ส่วนทิศทางตลาดหุ้นในปีหน้าคาดว่าจะมีทิศทางที่ดี โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกที่จะได้รับผลบวกจากการที่นักลงทุนเอเชียหันมาสนใจตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ภายหลังการเข้าไปลงทุนในตลาดพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์) รวมถึงปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ขยายตัว และการฟื้นตัวของกำลังซื้อภายในประเทศ ขณะเดียวกันในปีหน้าจะเห็นการเร่งการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ โดยประเมินว่าจะมีเม็ดเงินจากการประมูลโครงการภาครัฐประมาณ 9 แสนล้านบาท ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศ การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกดี เห็นได้จากการปรับประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้ของเวิลด์อีโคโนมิคฟอรั่ม (ดับเบิลยูอีเอฟ) ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) หรือสำนักอื่นๆ จึงคาดว่ามีโอกาสที่ดัชนีจะขึ้นไปที่ระดับ 1,760-1,789 จุดได้อย่างแน่นอน” นายสรพลกล่าว

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ฯ กล่าวว่า คาดว่าในปี 2561 อาจจะได้เห็นดัชนีทำจุดสูงสุดใหม่ หรือออลไทม์ไฮท์อีกครั้ง โดยมองว่าธีมการลงทุนที่น่าสนใจ จะได้รับปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวเด่น ส่งผลดีกับหุ้นกลุ่มโลจิสติกส์ ได้แก่ WICE , PORT กลุ่มเดินเรือ ได้แก่ PSL รวมถึงปัจจัยการบริโภคของชนชั้นกลางที่เร่งตัวขึ้น จะส่งผลดีกับหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ CPN, AP และกลุ่มสื่อนอกบ้าน ได้แก่ MACO, VGI

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image