เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาว่า คลื่นลมในอ่าวไทยที่ยังคงมีกำลังแรง ซัดเข้าถล่มชายฝั่ง ทำให้หมู่บ้านริมอ่าวไทย ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร ยังคงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยชาวบ้าน 52 ครัวเรือนของหมู่บ้านแห่งนี้ ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนตัวเองมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ยังต้องอาศัยบ้านญาติ ไม่สามารถกลับเข้าบ้านเรือนของตัวเอง โดยบ้านเรือนทั้ง 52 หลังนั้นได้รับความเสียบางส่วนบ้าง เสียหายทั้งหลังบ้าง และคลื่นลมที่ทวีกำลังแรงขึ้นเมื่อ 2 วันก่อนต่อเนื่องถึงขณะนี้ ทำให้บ้านเรือน ถนน เสียหายเพิ่มมากขึ้นอีก
นายเลี่ยนเห้ง งามกำเนิด ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบบอกว่า บ้านของตนเองพังเสียหายจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้แล้ว จากการถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าถล่มต่อเนื่อง แต่ยังอยากอาศัยอยู่บริเวณเดิม เนื่องจากชาวบ้านที่นี่นั้นประกอบอาชีพประมง และเลี้ยงปลาในกระชัง แต่หากไม่มีการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นมาป้องกัน คลื่นซัดถล่ม ก็จะต้องประสบปัญหาเช่นนี้ทุกปี เนื่องจากทะเลของหมู่บ้านแห่งนี้ ถูกขนาบด้วยแนวเขื่อนกันคลื่นทั้งด้านบนและด้านล่าง จึงต้องเดือดร้อนเช่นนี้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นให้แล้วเสร็จในปีนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ให้กลับมาอยู่อาศัยบ้านของตัวเองได้เช่นเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่อำเภอสิงหนคร ได้มีการก่อสร้างแนวเขื่อนกันคลื่น ซึ่งเป็นการตอกเสาเข็ม แนวหินทิ้ง ทั้งจุดที่อยู่เหนือชุมชนแห่งนี้ และจุดที่อยู่ด้านล่างชุมชน ทำให้ชุมชนแห่งนี้เป็นช่องว่าง คลื่นจึงซัดถล่มรุนแรงในรอบกว่า 60 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งนั้น เป็นการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ อยู่อาศัยบนที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ แต่เทศบาลเมืองสิงหนครได้ออกบ้านเลขที่ให้ เพื่อให้มีระบบไฟฟ้าและประปาใช้เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป
