สกู๊ปหน้า 1 : บุกคอกชนะชัย สัมผัส ‘บางแก้ว’ หมาฮอตวันนี้

การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรไปประชุมที่ จ.พิษณุโลกและสุโขทัย เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานของบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี พิษณุโลก (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ให้ความสนใจชมการเพาะเลี้ยงสุนัขพันธุ์บางแก้วของกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงในพื้นที่ และซื้อลูกสุนัขบางแก้ว 3 ตัว เพื่อนำไปเลี้ยงเอง 1 ตัว ซื้อให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย

สาริกัลยะ รองนายกฯ คนละหนึ่งตัว ซึ่งนายกฯซื้อราคาตัวละ 6,000 บาท แต่ให้เงินไป 25,000 บาท เพราะต้องการให้เป็นขวัญกำลังใจและเงินขวัญถุงแก่ผู้เพาะเลี้ยง

เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีหลัง “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.เพราะการให้ทรัพย์สินมีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท ถือว่ามีความผิดตามมาตรา 103 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

นอกจากนี้ กระแสสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว ก็กลายเป็นที่รู้จักขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะ คอกชนะชัยบางแก้ว ของ นายเสนอ จันทร์พุฒ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ซื้อลูกสุนัขไป มติชน มีโอกาสเดินทางไปบ้านเลขที่ 52/2 หมู่ 9 บ้านยมราช

Advertisement

ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พูดคุยกับ นายเสนอ จันทร์พุฒ หรือพี่เหนอ วัย 54 ปี เจ้าของคอกสุนัขถึงที่มาที่ไปของธุรกิจนี้

พี่เหนอเล่าว่า เริ่มต้นการทำคอกสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วเมื่อ 15 ปีก่อน เพราะครอบครัวไม่มีอาชีพแน่นอน ทำงานรับจ้างรายวันทั่วไป บางวันไม่มีเงินเหลือติดตัวแม้แต่บาทเดียว ช่วงนั้นในพื้นที่ตำบลท่านางงามมีชาวบ้านหลายรายให้ความสนใจมาทำคอกเพาะพันธุ์ขายลูกสุนัขบางแก้วจำนวนมาก แต่ไม่มีเงินแม้แต่จะไปซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์สักตัวเดียว สุนัขตัวแรกมีคนเขาให้มา เป็นสุนัขเพศเมีย ก็นำมาผสมพันธุ์ ได้ลูกสุนัขมา 7 ตัว ขายลูกสุนัขได้ตัวละ 3,000 บาท จึงเริ่มเกิดความชอบ มีทุน จึงเริ่มพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมา และต้องใช้ความอดทนมากๆ ไปนั่งเฝ้าตามคอกต่างๆ ที่มีสุนัขพันธุ์ดี และโชคดีที่ได้ตัวไม่สวยของคอกดังๆ มา แม้ว่าจะไม่ใช่ระดับแชมป์ แต่ก็ยังดี ได้สายพันธุ์มา ก็เริ่มนำมาผสมพันธุ์ เพาะพันธุ์เรื่อยมา มีพ่อพันธุ์ก็พาขึ้นรถจักรยานยนต์ตระเวนไปรับจ้างผสมพันธุ์ตามคอกต่างๆ ทั่วอำเภอบางระกำ ได้ค่าผสมพันธุ์ครั้งละ 500 บาท ก็เริ่มได้ทุนมาซื้ออาหารบ้าง หาแม่พันธุ์บ้าง ทำกรงสุนัขบ้างตามลำดับ

Advertisement

สำหรับเจ้าเมืองแมน สุนัขพ่อพันธุ์วัย 5 ปีเศษ สุนัขไทยบางแก้วสีขาว-น้ำตาล ที่เป็นตัวเด่นของคอกชนะชัยในปัจจุบัน และเป็นพ่อพันธุ์ของลูกสุนัข 3 ตัวที่นายกฯซื้อไป พี่เหนอเล่าว่า เพื่อนนำมาให้จากคอกแสนสิงห์ เพราะตนไม่มีเงิน เป็นลูกสุนัขที่ใจดี

ไม่ก้าวร้าว ไม่ดุ เพื่อนซื้อมาให้ก่อน 10,000 บาท จึงนำมาเป็นพ่อพันธุ์ และเริ่มรับจ้างผสมพันธุ์ครั้งละ 3,000 บาท มาอยู่ได้ไม่ถึง 1 เดือน ก็ได้เงินคืนเพื่อนไปเลย จากนั้นมาก็ดีตลอด ต่อปีได้ค่ารับจ้างผสมพันธุ์เยอะพอสมควร เหมือนมีของดีอยู่ในบ้าน ใครก็มา ต่างจังหวัดก็มา และได้รับการสนับสนุนที่ดีจากปศุสัตว์อำเภอบางระกำ ปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก อยากให้นำเจ้าเมืองแมนไปโชว์ตัวที่ไหน ตนและภรรยาก็จะพาไปตลอด ไม่มีปฏิเสธ

จากพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ และออกไปรับจ้างรายวัน ได้เงินมาก็นำมาใช้จ่ายในครัวเรือนและเป็นค่าอาหารสุนัข ทุกวันนี้ ชีวิตดีขึ้นมาก บางคอกได้ 70,000-80,000 บาทก็มี จากชีวิตที่ไม่มีอะไรเลย ก็เริ่มต้นซื้อที่ดินได้ และปลูกบ้านหลังนี้ ได้ส่งลูกเรียนปริญญาตรี

สำหรับตลาดของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วนั้น พี่เสนอมองว่า ตลาดยังไปได้อีกมาก ระดับราคาลูกสุนัขตัวละ 5,000-10,000 บาท ยังขายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเริ่มเป็นที่นิยมเลี้ยงทั่วประเทศไทย ขณะนี้ได้พัฒนาสายพันธุ์ที่มีความดุน้อยลง มีนิสัยไม่ก้าวร้าว ทำให้เริ่มมีผู้นิยมเลี้ยงมากขึ้น โดยเฉพาะคอกที่มีพ่อพันธุ์ที่ส่งลงสนามประกวด ไปโชว์ตัวบ่อยๆ มีประวัติสายพันธุ์ที่สืบได้จากสายพันธุ์แชมป์สนามต่างๆ อยู่ในตลาดบน ขายลูกสุนัขได้หลักหมื่นขึ้นไป แต่สำหรับคอกชนะชัยบางแก้วตั้งราคาขายขั้นต่ำอยู่ที่ตัวละ 6,000 บาท ช่วงมีกระแสข่าวด้านดีเกี่ยวกับสุนัขบางแก้ว เช่น สุนัขบางแก้วของพระเอกลิเกไชยา มิตรชัย กัดขโมยขึ้นบ้าน หรือนายกฯมาซื้อลูกสุนัขบางแก้ว ก็ยิ่งทำให้คนรู้จักและสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะคอกตน มีผู้ติดต่อมาไม่ขาดสาย แต่คอกเดียวกับลูกสุนัขของนายกฯนั้นหมดแล้ว ต้องรอจากแม่พันธุ์อีก 6 แม่ ที่ผสมพันธุ์กับเจ้าเมืองแมน จะคลอดช่วงกลางเดือนมกราคม 2561 นี้ และพร้อมจะให้ชมเลือกลูกสุนัขได้ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป โดยคาดว่าจะได้ลูกสุนัขไม่ต่ำกว่า 20-30 ตัว

พี่เหนอ ย้อนเล่าถึงสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วว่า มีถิ่นกำเนิด ณ วัดบางแก้ว บ้านบางแก้ว ตำบลท่านางงาม ชื่อเดิม ตำบลบางแก้ว อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก อดีตเมื่อ 100 ปีที่ผ่านมา ขณะที่หลวงปู่มาก เมธารี มีชีวิตอยู่และเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 3 ชาวบ้านบางแก้วรายหนึ่งได้นำสุนัขพันธุ์ไทย พื้นบ้านเพศเมียสีดำ ขนาดค่อนข้างใหญ่ถวายให้แก่ท่านหลวงปู่มากเลี้ยงอยู่ในวัด ต่อมาสุนัขเติบโตขึ้นถึงวัยผสมพันธุ์ ได้ผสมพันธุ์กับสุนัขป่าซึ่งอาศัยอยู่ในป่าทึบบริเวณใกล้ๆ กับวัดบางแก้ว ถือเป็นจุดกำเนิดสุนัขพันธุ์นี้

สุนัขไทยบางแก้วเป็นสุนัขขนาดกลาง มาตรฐาน 3 สี คือ ขาว-ดำ ขาว-น้ำตาล และขาว-เทา มีลักษณะรูปร่าง คือ หัวกะโหลกค่อนข้างใหญ่, จมูกสีดำได้สัดส่วนกับปาก, ปากยาวปานกลาง โคนปากใหญ่เรียวจรดปลายจมูก, ริมฝีปากแนบสนิท สีเข้ม, ปากคาบแก้ว, สต๊อปมีมุมหักเล็กน้อย, ขากรรไกรขบกันสนิท, ฟันเล็กแหลมคม สุนัขโตควรครบ 42 ซี่, ตาเล็ก เหมือนเม็ดอัลมอนด์ สีดำหรือน้ำตาล, หูสามเหลี่ยมตั้งป้องไปข้างหน้า, คอใหญ่ล่ำสัน แผงขนยาวรอบ, หลังเส้นตรง, ขาหน้าใหญ่กว่าขาหลัง, ขาหลังมีขนยางคล้ายแข้งสิงห์, อุ้งเท้ากลมคล้ายอุ้งเท้าแมว ขนคลุมนิ้วเท้า, ขนหางเป็นพวง-โคนหางใหญ่ ข้อบกพร่อง คือ ตาหรือจมูกสีอ่อน หางไพล่ ไม่มีแผ่นขนรอบคอ ไม่มีแข้งสิงห์ หูใหญ่ ปากใหญ่ ตากลมโต หลังโก่ง หลังแอ่น

ลักษณะนิสัยของสุนัขพันธุ์นี้ คือ เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว พฤติกรรมตื่นตัว ร่าเริง รักเจ้าของ ไม่ขลาดกลัว ซื่อสัตย์ หวงแหนทรัพย์สิน ฉลาด กล้าหาญ และฝึกได้ง่าย แม้ว่าเดิมทีสายพันธุ์ค่อนข้างดุ
แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีนิสัยเข้าคนได้ง่าย ไม่ดุง่าย เป็นสุนัขของครอบครัว

สุดท้าย พี่เหนอ ยังแนะนำวิธีเลี้ยงว่า ต้องเลี้ยงเหมือนลูก ต้องพาเขาออกไปวิ่งเล่น ออกกำลังกาย ไม่ให้สุนัขเครียด และขยันทำความสะอาด อาหารการกินก็เลี้ยงตามฐานะ เพราะสุนัขเป็นสุนัขของประเทศไทย เลี้ยงอาหารธรรมดาได้ ถ้ามีเงินมีฐานะดี ก็เลี้ยงด้วยอาหารที่มีโปรตีนดีๆ ได้

ผมทำอะไรเกินฐานะไม่ได้ ก็จะเลี้ยงด้วยอาหารคลุกข้าวกับเนื้อไก่ หัวอาหารบ้าง ส่วนอาหารลูกสุนัขก็จะให้กินอาหารที่มีโปรตีนสูงๆ จะไปช่วยเสริมโครงสร้าง ขน เช่น เนื้อไก่ ไข่ไก่ นม พี่เสนอกล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image