ยายวัย 80 ปี ตาบอด 2 ข้าง อาศัยอยู่ในเพิงสังกะสี เลี้ยงลูกพิการทางสมอง และหลานสาววัย 13 ปี วอนสังคมช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมาว่า มียายอายุ 80 ปี ซึ่งตาบอดทั้ง 2 ข้าง อาศัยอยู่ในเพิงสังกะสีกับลูกสาว วัย 43 ปี ที่พิการทางสมอง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็นตลอด และหลานสาววัย 13 ปี ซึ่งกำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.2 ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 14 บ้านโคกตะแบก หมู่ที่ 9 ต.สำโรง อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา พบว่าบ้านหลังดังกล่าว ได้นำสังกะสีมาทำเป็นฝาบ้านและมุงหลังคา อยู่ในสภาพทรุดโทรม โดยมีผู้อยู่อาศัย 3 คน ประกอบไปด้วยยายเอี้ยง แซ่สันเทียะ อายุ 80 ปี, นางศศิธร ปลั่งกลาง อายุ 43 ปี และ ด.ญ.ธิดารัตน์ ปลั่งกลาง อายุ 13 ปี ซึ่งทั้ง 3 คน เป็นแม่ ลูก และหลานกัน ภายในบ้านแบ่งเป็น 2 ห้อง ซึ่งห้องหนึ่งมีเพียงเสื่อผืน หมอนใบ และผ้าห่ม ที่ยายเอี้ยงใช้หลับนอนบนพื้นไม้กระดาน ไม่มีมุ้ง และเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนอีกห้อง ทำเป็นทั้งห้องนอน และห้องครัว มีที่นอนเก่าๆ มุ้ง ผ้าห่ม ตู้กับข้าว หม้อหุงข้าว และของใช้ส่วนตัวเล็กน้อย วางกองอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่ว ซึ่งมีนางศศิธร กับลูกสาวคือ ด.ญ.ธิดารัตน์ ใช้หลับนอนอยู่ด้วยกัน

จากการสอบถามเพื่อนบ้านหลายคน บอกว่า ยายเอี้ยงมีลูกอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน เป็นลูกสาวทั้งหมด โดยลูกสาว 3 คน ไปทำงานต่างจังหวัดตั้งแต่เมื่อ 20 กว่าปีมาแล้ว ยังไม่เคยกลับมาเยี่ยมบ้านเลย ส่วนอีก 1 คน ไปมีครอบครัวอยู่ตำบลใกล้เคียง ใน อ.โนนไทย ขณะที่สามีเสียชีวิตไปตั้งแต่เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว จึงทำให้ปัจจุบันอาศัยอยู่กับลูกสาว 1 คน คือนางศศิธร ซึ่งเป็นผู้พิการ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา จากการผ่าสมองเอาเนื้องอกออกเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ส่วนสามีของนางศศิธร ก็ประสบอุบัติเหตุ ถูกรถชนเสียชีวิต เมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยทิ้งลูกสาว 3 คน ให้ยายเอี้ยง และนางศศิธรเลี้ยงด้วยความยากลำบาก ต่อมาลูกสาวยายเอี้ยงอีกคน ซึ่งเป็นพี่สาวของนางศศิธร จึงได้มารับหลานสาวคนเล็ก 2 คน ไปเลี้ยงให้ที่บ้านซึ่งอยู่ในตำบลใกล้เคียง เพื่อแบ่งเบาภาระความยากลำบากของแม่และน้องสาว จึงทำให้บ้านหลังนี้มีผู้อยู่อาศัยเพียง 3 คนเท่านั้น ซึ่งทั้ง 3 คน ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ทำให้ไม่มีรายได้จุนเจือครอบครัว อาศัยเพียงเงินสวัสดิการผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาท และเงินผู้พิการ 2 คน รวมกันเพียงเดือนละ 1,600 บาท ใช้เลี้ยงชีพเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอ เพราะต้องมีค่าใช่จ่ายจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ค่าอาหารการกิน ค่าผ้าอ้อมสวมใส่ เพราะนางศศิธรช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องสวมใส่ผ้าอ้อมซับอุจจาระ ปัสสาวะ รวมทั้งค่าใช้จ่ายส่ง ด.ญ.ธิดารัตน์ เรียนหนังสือด้วย และด้วยความที่ทั้งยายเอี้ยง และนางศศิธร ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงทำให้ ด.ญ.ธิดารัตน์ ต้องเป็นผู้เลี้ยงดู เรื่องการหุงหาอาหาร การอาบน้ำ การทำความสะอาดร่างกาย และดูแลทุกอย่างในบ้าน ส่วนช่วงวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงกลางวันที่ ด.ญ.ธิดารัตน์ ไปโรงเรียน ก็จะปล่อยให้ทั้ง 2 คนอยู่เพียงลำพัง ซึ่งยายเอี้ยงต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันไปตามทางเดิน เพราะตาบอดทั้งสองข้างมองไม่เห็น ส่วนนางศศิธร ก็พิการนั่งอยู่บนรถเข็น ไปไหนไม่สะดวก ต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก

ยายเอี้ยง แซ่สันเทียะ เล่าว่า ช่วงหน้าหนาวตนก็จะนอนห่มผ้าผืนเดียวอยู่ในบ้านมุงสังกะสี ซึ่งไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ เวลาจะกิน จะนอน ต้องใช้วิธีคลำเอา ส่วนการเดินไปนอกบ้าน ก็จะมีไม้เท้าค้ำยัน ซึ่งก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากมาก แต่ลำพังตนเองคนเดียวก็ไม่ได้ท้ออะไรมากนัก เพียงแต่รู้สึกสงสารลูกสาวและหลานสาวที่ต้องมาทนตกทุกข์ได้ยากด้วย โดยเฉพาะหลานสาวที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.2 ที่โรงเรียนโนนไทยคุรุอุปถัมภ์ 2 ต้องมาดูแลผู้พิการทั้งยายและแม่ ทั้งที่เขาน่าจะได้ไปวิ่งเล่นกับเด็กๆ เหมือนคนอื่นเขา เวลาอ่านหนังสือเรียนก็ไม่ค่อยมี ส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็ต้องไปหารับจ้างหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ดังนั้นจึงอยากให้หลานสาวได้เรียนหนังสือสูงๆ มีอนาคตที่ดีกว่านี้

สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวยายเอี้ยง สามารถโอนเงินช่วยเหลือเข้าบัญชีธนาคารออมสิน สาขาโนนไทย ชื่อบัญชี นางบังอร เก็บสำโรง เลขบัญชี 52-7306-3529-0 ซึ่งจะมีผู้ใหญ่บ้านและลูกสาวของยายเอี้ยงเป็นผู้ดูแลบัญชีให้ หรือจะโทรศัพท์สอบถามได้ที่เบอร์โทร 064-1594136 (เปิ้ล)

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image