ครัวเรือนมีมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้าดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 นับเป็นสัญญาณบวกต่อการบริโภคภาคเอกชนในไตรมาสที่ 1/2561
|
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า ครัวเรือนไทยในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดมีมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพในอีก 3 เดือนข้างหน้าดีขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 นับเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการบริโภคของภาคเอกชนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 สะท้อนจากดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนอีก 3 เดือนข้างหน้า (3-month Expected KR-ECI) ที่ปรับตัวดีขึ้นมากจากระดับ 46.6 ในเดือนพ.ย. มาอยู่ที่ระดับ 47.8 ในเดือนธ.ค. 2560 โดยมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นของครัวเรือนต่อภาวะการครองชีพในระยะข้างหน้ามาจากความคาดหวังในปัจจุบันต่อการมีรายได้ที่ดีขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจที่รักษาโมเมนตัมการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงที่ผ่านพ้นเทศกาลสำคัญๆ อย่างวันปีใหม่ที่ส่วนใหญ่จะมีการใช้จ่ายมากเป็นพิเศษไปแล้ว จึงทำให้ความกังวลของครัวเรือนต่อประเด็นทางด้านค่าใช้จ่าย (ไม่รวมหนี้สิน) ลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน
สำหรับภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนในปัจจุบัน เฉกเช่นเดียวกันกับทุกๆ ปีที่ในเดือนธ.ค. ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) จะปรับตัวลดลงตามการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของครัวเรือนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยครัวเรือนราวร้อยละ 58 ที่ทำการสำรวจมีค่าใช้จ่าย (ไม่รวมภาระหนี้สิน) เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย. 2560 ซึ่งส่วนใหญ่ราวร้อยละ 65 ของครัวเรือนกลุ่มนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการใช้จ่ายในรายการพิเศษ เช่น ท่องเที่ยว กลับภูมิลำเนา ไปวัดทำบุญ สังสรรค์กับครอบครัว รวมไปถึงการซื้อของขวัญเพื่อมอบให้แก่กันเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ในขณะที่ภาวะการครองชีพของครัวเรือนในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรายได้ สถานการณ์ราคาสินค้า เงินออม รวมถึงภาระหนี้สิน ก็ยังทรงตัวอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี การจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้นของครัวเรือนในช่วงเดือนที่ผ่านมา ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจ ส่งผลบวกต่อรายได้ของครัวเรือนบางส่วนที่ประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับการค้าขายและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะครัวเรือนที่อาศัยในพื้นที่ภาคใต้ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย แต่ในขณะเดียวกัน ด้วยสภาพภูมิอากาศที่มีฝนตกชุกและน้ำท่วมในบางพื้นที่ของภาคใต้ก็เป็นปัจจัยขัดขวางการออกไปทำงานของครัวเรือนเกษตร โดยเฉพาะการออกไปกรีดยาง ตลอดจนสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นฉับพลันในบางช่วงของเดือนธ.ค. 2560 ยังทำให้สินค้าเกษตรบางรายการมีปริมาณผลผลิตลดลง กดดันรายได้ครัวเรือนเกษตรบางส่วนให้ปรับตัวลดลงในช่วงเดือนธ.ค. 2560
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ยังต้องติดตามและรอดูความชัดเจนในอีกหลายประเด็นที่คาดว่าจะมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 ไม่ว่าจะเป็น
- สถานการณ์ทางด้านราคาสินค้าเกษตรบางรายการที่ในช่วงสัปดาห์แรกของปี 2561 ปรับตัวลดลงจากเดือนธ.ค. 2560 เช่น ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% อ้อยโรงงาน สุกร เกิน 100 กก. และไข่ไก่สด ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันรายได้ครัวเรือนเกษตรในช่วงต้นปี 2561
- การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำประจำปี 2561 ที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในวันที่ 17 ม.ค. 2561 ซึ่งน่าจะสามารถบังคับใช้ได้ในช่วงไตรมาสที่ 1/2561
โดยสรุป จากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดประจำเดือนธ.ค. 2560 พบว่า ครัวเรือนมีมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพในอีก 3 เดือนข้างหน้าดีขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อการบริโภคของภาคเอกชนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จากแรงกดดันทางด้านค่าใช้จ่ายและภาระหนี้ที่ลดลง ประกอบกับมีความคาดหวังถึงรายได้ที่ดีขึ้นในอนาคต ในขณะที่ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนในเดือนธ.ค. 2560 ปรับตัวลดลงเป็นปกติของทุกๆ ปีตามการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลวันปีใหม่ ซึ่งเมื่อตัดรายการค่าใช้จ่าย (ไม่รวมหนี้สิน) ออก ภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนในด้านอื่นๆ ก็ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนพ.ย. 2560