เมื่อวันที่ 16 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ที่แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว
นายธนวัฒน์กล่าวว่า โครงการไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีคืบหน้าไปแล้ว 90% มีกำลังการผลิต 1,285 เมกะวัตต์ โดยจะขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 95% และขายให้กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว 5% ซึ่งในวันที่ 3 ตุลาคมนี้ จะเริ่มปล่อยน้ำเข้า และจะหมุนกังหันชุดแรกในวันที่ 9 ตุลาคม ในวันที่ 24 พฤศจิกายน จะทดสอบเครื่องชุด 1 แล้วเสร็จ พร้อมจ่ายไฟฟ้าให้ กฟผ.ที่รับซื้อตามสัญญายูโอพี
“จากนั้นเดือนพฤศจิกายน 2561 จนถึงเดือนกันยายน 2562 จะทดสอบเดินเครื่องให้แล้วเสร็จ พร้อมขนานเครื่องทั้งหมดให้ทำงานพร้อมกันจนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2562 เริ่มซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ หรือซีโอดีให้กับ กฟผ. ซึ่งโครงการนี้มีระยะเวลาสัมปทาน 31 ปี” นายธนวัฒน์กล่าว
นายธนวัฒน์กล่าวว่า วงเงินลงทุนโครงการนี้กว่า 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้กว่า 2 หมื่นล้านบาทเป็นการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาระบบนิเวศให้เหมือนเดิมมากที่สุด เพราะเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบฝายน้ำล้น ไม่มีการกักเก็บน้ำในอ่างเก็บน้ำ แต่จะมีน้ำไหลผ่านตลอด ซึ่งนอกจากจะมีบานระบายน้ำแล้วยังมีบานระบายตะกอนใต้น้ำด้วย เพื่อไม่ให้กระทบต่อระบบนิเวศของแม่น้ำโขง
“รวมทั้งมีทางเรือผ่าน ความกว้าง 12 เมตร เพื่อให้เรือขนาด 500 ตันผ่านได้ โดยจะมีช่องให้เรือทั้งขาขึ้นและขาล่องเข้ามาจากนั้นจะปรับระดับน้ำให้เท่ากับระดับน้ำที่เหนือหรือท้ายเขื่อน ก่อนให้เรือแล่นต่อไป ซึ่งเป็นเขื่อนแห่งแรกใน สปป.ลาวที่มีช่องเรือผ่านที่มีการปรับระดับน้ำ นอกจากนี้ยังมีทางปลาผ่าน ที่จะช่องทางให้ปลาแต่ละขนาดและแต่ละชนิดที่จะว่ายทวนน้ำผ่านเขื่อนน้ำขึ้นไปวางไข่ได้ ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับปลา หรือ ฟิช เฟรนลี่ โดยจะมีช่องทางต่างๆ รวมทั้งลิฟต์ที่ช่วยให้ปลาขึ้นไปเหนือเขื่อนได้ด้วย ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (เอ็มอาร์ซี) และข้อห่วงใยของกลุ่มเอ็นจีโอ” นายธนวัฒน์กล่าว
รายข่าวแจ้งว่า ขณะนี้บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างเจรจากับ สปป.ลาว ถึงโครงการใหม่ คาดว่าจะเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง กำลังการผลิต 1,410 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถตกลงกันได้ในเร็วๆ นี้