เงินบาทอ่อนค่า-หุ้นไทยลดลงตามแรงขายนักลงทุนต่างชาติ

แฟ้มภาพ

“เงินบาทอ่อนค่า ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นไทยลดลงตามแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทกลับมามีทิศทางที่อ่อนค่า แต่ในภาพรวมยังเป็นการอ่อนค่าตามสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย หลังจากที่เงินดอลลาร์ฯ ทยอยแข็งค่าขึ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับจำนวนครั้งที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ นอกจากนี้ เงินบาทที่อ่อนค่ายังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิพันธบัตรและหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติเช่นกัน

สำหรับในวันศุกร์ (9 ก.พ.) เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 31.96 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะกลับมาที่ 31.77 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 31.45 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (2 ก.พ.)

Advertisement

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 ก.พ.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.50-32.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตาจะอยู่ที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของกนง. (14 ก.พ.) ส่วนจุดสนใจของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอยู่ที่เครื่องชี้ภาวะเงินเฟ้อ ทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาสินค้านำเข้า/ส่งออกเดือน ม.ค. ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ อาทิ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการขออนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. ผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และเฟดสาขานิวยอร์ก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนก.พ. รวมถึงตัวเลขเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนธ.ค. 2560 ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2560 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น

ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนีตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติตลอดสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,786.45 จุด ลดลง 2.24% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นประมาณ 33.46% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 79,729.12 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 526.60 จุด ลดลง 1.16% จากสัปดาห์ก่อน

Advertisement

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมากในช่วงต้นสัปดาห์ สอดคล้องกับทิศทางตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค และแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังคงปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด อย่างไรก็ดี ดัชนี SET ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ สามารถประคองตัวให้ปิดในช่วงระหว่าง 1,785-1,789 จุดได้ ด้วยแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มธนาคาร ประกอบกับการผ่านร่างพ.ร.บ. อีอีซีของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในช่วงปลายสัปดาห์

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 ก.พ.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,775 และ 1,760 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,800 และ 1,820 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ผลการประชุมกนง. รวมถึงผลประกอบของบจ. งวดปี 2560 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ข้อมูลผลผลิตอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และยอดค้าปลีกเดือนม.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 4/2560 (เบื้องต้น) ของยูโรโซนและญี่ปุ่น และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนม.ค. ของอังกฤษ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image