เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.อาสาฬหะ พูลสุวรรณ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 อ.แม่สอด พร้อมกำลังทหาร ฉก.ร.14 อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมด้วย พ.ต.ท.จิรศักดิ์ ศรีธรรม รอง ผกก.สภ.แม่สอด นำกำลังทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรแม่สอด เดินทางไปตรวจสอบเหตุระเบิดในรถตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งบรรทุกรถญี่ปุ่นมือสอง ที่บรรทุกมาจากแหลมฉบัง ในการนำส่งไปยังพม่า หลังได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุตู้คอนเทนเนอร์ของรถบรรทุกขนาดใหญ่ ระเบิดบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านแม่ตาวริมเมย ถนนสายแม่สอด – ริมเมย หมู่ 1 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์บรรทุก 22 ล้อ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ หมายเลขทะเบียน 73-0372 ชลบุรี มีสภาพตู้เหล็กบวมปูดออกมา ภายในตู้มีรถยนต์ที่เป็นสินค้าผ่านแดน 5 คัน ทะลักออกมา มีกลิ่นน้ำมันคละคลุ้ง จึงให้หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือชุด EOD เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ พร้อมรถดับเพลิง รถน้ำ และกันพื้นที่ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปใกล้ ขณะเดียวกันพบคนขับรถยนต์บรรทุกที่เกิดเหตุ ชื่อนายสุจินต์ เมียศพรม ชาว ต.แพรกษา จ.สมุทรปราการ จอดรถยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยท่าทางที่ตกใจกลัว
นายสุจิน กล่าวว่า ได้ขับรถยนต์บรรทุกมาจากแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อนำรถยนต์มือสองจากญี่ปุ่นไปส่งชายแดนไทย – พม่า ที่ อ.แม่สอด ขณะขับผ่านโรงเรียนบ้านแม่ตาวริมเมย เส้นทางมุ่งหน้าไปชายแดน บริเวณท่าเรือที่ 12 ได้เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น จึงจอดรถยนต์ลงไปดู พบล้อรถยนต์ในตู้กระเด็นออกมาเกือบไปถูกรถคันอื่นๆ ที่วิ่งตามมา และหวั่นว่าจะเกิดระเบิดอีกครั้ง จึงรีบขับเพื่อไปจอดยังที่ปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สัณนิษฐานว่า น่าจะมาจากการเสียดสีภายในรถยนต์ เพราะรถยนต์ต้องจอดติดเครื่องนาน ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อน จึงเกิดระเบิดได้ ซึ่งจะต้องตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนรถยนต์นั้น เป็นของพ่อค้าชาวปากีสถาน ที่ไปค้ารถยนต์มือสองจากญี่ปุ่นส่งไปพม่า เป็นสินค้าผ่านแดน