…เข้าสู่ห้วงเวลาของ “พรรคใหม่” ที่จะเริ่มขั้นตอน “จัดตั้งพรรค” ตั้งแต่ 1 มี.ค. แต่เป็นวันมาฆบูชา หยุดราชการ เลยขยับเปิดรับคำขอตั้งพรรค 2 มี.ค.เป็นต้นไป งานนี้ กกต. ชุด 5 เสือรับหน้าที่ดำเนินการ แต่เนื่องจากยัง “ไม่ปลดล็อก” ห้ามเคลื่อนไหวการเมือง ดังนั้น ถ้าจะประชุมต้อง “ขออนุญาต คสช.” ผ่านทาง กกต. คง “ประดักประเดิด” กันพอสมควร
…คนไทยเข้าคูหาเลือกตั้งครั้งสุดท้าย 2 ก.พ. 2557 แต่หลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ใต้ กทม. กลุ่มการเมืองเข้า “ขัดขวาง” การรับสมัคร จนบาดเจ็บล้มตายเอาหีบเลือกตั้งไปทิ้ง โดยภาคราชการรู้เห็นเป็นใจ วันเลือกตั้งมีการ “ปิดหน่วย” แต่เราก็ได้เห็น “ประชาชนผู้กล้าหาญ” ปีนรั้ว แหวกฝูงม็อบไปใช้สิทธิ บางคนถูกทำร้าย บีบคอ โดยที่ “กฎหมายบ้านเมือง” ทำอะไรกับอันธพาลการเมืองเหล่านี้ไม่ได้ และสุดท้าย “ศาลรัฐธรรมนูญ” สั่งให้การเลือกตั้งครั้งนั้น เป็น “โมฆะ” ไป
…จาก 2557 ถึง 2561 ถ้าวันนั้นมีเลือกตั้ง รัฐบาลจากการเลือกตั้งในคราวนั้น คงอายุครบ 4 ปี ขาดเหลือไม่กี่เดือนไปแล้วในต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และควรจะมีการเลือกตั้งในปี 2561 นี้ แต่ก็ชัดเจนแล้วว่า ในปี 2561 การเลือกตั้งคงไม่เกิดขึ้นแน่ๆ ด้วยอุปสรรคมากมาย หลักๆ มาจาก “กฎหมายลูก” อันเป็นผลงานของ “สนช.” ที่มาจาก “ลากตั้ง” ที่พยายามเขียนกติกาให้ “ระบบเลือกตั้ง”
…และตั้งแต่ 2 มี.ค. จะได้เห็นโฉมหน้าของ “พรรคการเมือง” ว่า จะเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ เหล้าใหม่ในขวดใหม่ ฯลฯ ในยุคออนไลน์แบบนี้ ใครเป็นใครเช็กได้ไม่ยาก ก็ต้อง “เก็บข้อมูล” กันไปว่า แต่ละพรรคจะมีแนวทาง จุดยืนแบบไหน มาสนับสนุน “กลุ่มอำนาจ” หรือเพื่อเสริมให้ระบบเลือกตั้ง เป็นจริงเป็นจังและคึกคักมากขึ้น
…มีข่าวว่า จะมี “คนรุ่นใหม่” ประกอบด้วย “นักวิชาการ -ปัญญาชน” กลุ่มหนึ่ง รวมตัว ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรค ประมาณวันที่ 15 มี.ค. จุดเด่นนอกจากความเป็น “คนรุ่นใหม่” ที่ไม่เคยลงสมัครมาก่อน หรือเต็มที่อาจจะเคยลงสมัคร 1-2 สมัยมาเข้าร่วม ยังจะมี “นโยบาย” ที่เข้มข้น โดยเฉพาะในทาง “การเมือง” ก็ถือเป็นข่าวที่น่าสนใจ และน่าติดตามว่า เมื่อคนรุ่นใหม่ ขานรับคำเรียกร้องของ “คสช.” มาตั้งพรรค สู้ศึกเลือกตั้ง “ตลาดการเมืองแบบไทยๆ” ที่มีกลุ่มอำนาจกำกับอยู่ จะเปิดรับ “คนเหล่านี้” มากน้อยแค่ไหน
…เริ่มเห็นเค้าว่า พรรคการเมืองที่จะเกิดขึ้น คงจะเดินใน 2-3 แนวทางที่แตกต่างกัน กลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล คสช. ต้องมีแน่ๆ อาจจะมีอดีต ส.ส.จากหลายพรรค บุตรหลาน ส.ส.-นักการเมืองรุ่นเก่า อดีตข้าราชการ นักธุรกิจ ฯลฯ มาเป็น “กำลังสำคัญ” กลุ่มของพรรคหลักเดิม อาทิ “เพื่อไทย” กับ “ปชป.” เจ้าเก่า กับอีกกลุ่ม คือ “พรรคของคนอีกรุ่น” ที่มองปัญหาการเมือง และ “ทางออกของประเทศ” แตกต่างออกไป
…เรื่องสำคัญ คือ “ทรรศนะ” ที่จะมอง “การแข่งขัน” ในสนามเลือกตั้ง ควรต้องมองด้วยความเข้าใจว่า เป็นเรื่องปกติ ที่จะต้องมี “การต่อสู้ทางความคิด-แนวคิด-และวิธีการแก้ไขปัญหา” ซึ่งไม่ใช่ “ความขัดแย้ง” ที่จะเอามุมมองด้าน “ความมั่นคง” เข้ามาจับ และสกัดปราบปราม เพราะการเมืองที่ไม่มีการแข่งขัน คือการเมืองแต่งตั้ง ซึ่งมีแต่จะทำให้พากันเดินหน้าลงคลองเป็นแถวๆ
กาแฟป่า
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่