ปปท.เร่งเอาผิด ผอ.ศูนย์ไร้ที่พึ่ง ทุจริตเงินคนจน พ่วง ผอ.รร.ปมคลิปสนับสนุน เอาผิดขั้นเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ปปท.) มีการตรวจสอบพบว่า มีการทุจริต เบิกจ่ายเงินเป็นเท็จ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นครพนม โดยมีการสรุปหลังการลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริง ของคณะทำงานตรวจสอบการทุจริต พบว่า พื้นที่ จ.นครพนม มีชาวบ้านผู้เสียหาย จำนวน 564 ราย ในพื้นที่ 12 อำเภอ มากสุดคือ อ.นาหว้า มากถึง 270 ราย รองลงมาคือ อ.นาทม จำนวน 140 ราย ซึ่งส่วนใหญ่พบประเด็นสำคัญคือ มีการดำเนินการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือชาวบ้านจริง ทั้งหมดในปี 2560 เป็นเงิน 1.7 ล้านบาท แต่มีปัญหาเนื่องจาก ไม่ได้นำมาจ่ายให้กับชาวบ้าน ที่มีคุณสมบัติ จะได้รับความช่วยเหลือตามความเป็นจริง เนื่องจากตามระเบียบ จะสามารถช่วยเหลือได้ ปีละ 2 ครั้ง ครั้งละ ไม่เกิน 3,000 บาท แต่บางรายได้เงินเพียง รายละ 1,000-2,000 บาท ต่อ ปี บางรายได้ประมาณ 200-300 บาท และมีบางรายไม่ได้รับเลย แต่จาการตรวจสอบกับพบว่ามีชื่อ รวมถึงเอกสาร เบิกจ่ายครบ รายละ 5,000 บาท

นอกจากนี้ทาง ปปท.ยังได้พบหลักฐานสำคัญ กรณีชาวบ้าน ได้บันทึกคลิปวีดีโอ มีผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองซน อ.นาทม จ.นครพนม ออกมาหารือพูดคุยกับชาวบ้าน เพื่อให้ชาวบ้านยืนยันกับเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบว่า ได้รับเงินทั้งหมดครบ และจะมีการนำมาจ่ายให้ภายหลัง ซึ่งจากการตรวจสอบถือว่า เป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดชัดเจน เชื่อว่ามีขบวนการอาศัยความเชื่อถือของผู้บริหารโรงเรียน เข้ามาช่วยในการพูดคุยชาวบ้าน เพื่อปกปิด ทำลายหลักฐาน การทุจริต หลังมีการลงพื้นที่ตรวจสอบ

นายเกรียงไกร สืบสัมพันธ์ ผู้อำนวยการกองปราบปรามทุจริตในภาครัฐ 5 เปิดเผยถึงแนวทางการเอาผิด ว่า หลังจากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่มีการทุจริตเบิกจ่ายเงินจริง สำหรับการช่วยเหลือคนยากจน หลังมีการตรวจสอบเก็บหลักฐานทั้งเอกสาร และพยานบุคคลชัดเจน มีชาวบ้านยืนยัน ว่ารับเงินไม่ครบ ทั้งที่มีการเบิกจ่ายจริง หมายถึง มีการเอาเอกสารชาวบ้านไปทำเรื่องเบิกจ่ายเงินออกมาตามระเบียบ แต่ไม่ได้นำมาจ่ายจริง เบื้องต้น บุคคลที่มีอำนาจจะต้องถูกดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายคือ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นครพนม โดยทาง ปปท.จะใช้อำนาจทางกฎหมาย เสนอให้ปรับย้ายออกจากพื้นที่ ระหว่างการดำเนินการเอาผิด ทั้งทางวินัย ทางอาญา ตามอำนาจหน้าที่ ส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง จะต้องว่ากันไปตามความผิด ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่

นอกจากนี้ในส่วนของคนนอก คือ ผู้อำนวยการโรงเรียน ที่มีหลักฐานในคลิป จะใช้อำนาจทางกฎหมายดำเนินการเอาผิดเช่นกัน เพราะถือว่า เป็นผู้ให้การสนับสนุนการทุจริต เพราะมีการพยายามให้ชาวบ้านปิดบังข้อมูลการทุจริต ซึ่งอาจจะมีขบวนการมาขอความช่วยเหลือให้เจรจากับชาวบ้าน เพราะเป็นบุคคลที่ชาวบ้านเชื่อถือ ส่วนเรื่องวินัย หรือความผิดด้านอื่นๆ จะได้เสนอไปยังต้นสังกัด ให้ดำเนินการเอาผิดทางกฎหมาย ทั้งนี้ยืนยันว่า ปปท.มีหลักฐานชัดเจน มั่นใจว่า จะสามารถเอาผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องได้อย่างแน่นอน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image