นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัทไทยทีวี จำกัด ยื่นฟ้อง กสทช. โดยศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1.ศาลพิพากษาให้ บริษัท ไทยทีวี จำกัด มีสิทธิบอกเลิกใบอนุญาตช่องทีวีดิจิทัล 2.ศาลพิพากษา ตามหลักการชำระเงินใบอนุญาตช่องทีวีดิจิทัลว่า บริษัท ไทยทีวี จำกัด ต้องชำระค่าประมูลในงวดที่ 1 และงวดที่ 2 ก่อนการบอกเลิกสัญญา และไม่ต้องชำระในงวดที่ 3-6 เนื่องจากได้บอกเลิกสัญญาแล้ว และ 3.ศาลพิพากษา กรณีบริษัท ไทยทีวี จำกัด เรียกค่าเสียหายจาก กสทช. ว่าไม่สามารถทำได้ กสทช. จึงไม่ต้องชำระในส่วนนี้ ดังนั้น กสทช. จะต้องคืนหลักประกันให้กับผู้ฟ้องร้องคดี ตั้งแต่งวดที่ 3 เป็นต้นไป
“ขอบคุณศาลปกครองกลางที่ได้ให้ทางออกแก่ผู้ประกอบการทีวี สำนักงาน กสทช. และกสทช. ด้วย ซึ่งคำพิพากษาเป็นทางออกที่ดีแล้ว ต่อไปผู้ที่มีการคืนไปอนุญาตจะได้มีหลักการในการคืนใบอนุญาตได้ จะได้ยึดเป็นบรรทัดฐานได้ว่า สามารถคืนใบอนุญาตได้ แต่ทั้งนี้บอร์ด กสทช.จะยินดีด้วยหรือไม่ ต้องรอฟังผลในการประชุมบอร์ด กสทช.อีกครั้ง แต่หากยื่นอุทธรณ์คงมีการยื่นในประเด็นที่คลาดเคลื่อนไป” นายฐากร กล่าว
ทั้งนี้ในวันที่ 14 มีนาคม จะมีการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (บอร์ด กสทช.) เพื่อหารือถึงประเด็นการยื่นอุทธรณ์ต่อศาล ว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ และจะยื่นในประเด็นใดบ้าง ซึ่งในภาพรวม กสทช. พอใจในคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง และจะยึดเป็นบรรทัดฐานในกรณีที่มีผู้ประกอบการรายอื่นๆ ต้องการคืนใบอนุญาตช่องทีวีดิจิทัล และสำหรับมาตร 44 ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลด้านต่างๆ ที่อนุมัติไปแล้วยังคงดำเนินต่อไป
