วันที่ 14 มีนาคม นางมะลิ ประภัสสร อายุ 60 ปี ร้านจำหน่ายอาหารตามสั่งย่านศิลาอาสน์ตะวันออก เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ กล่าวว่า หลังสถานศึกษาปิดภาคเรียน นักเรียนนักศึกษาที่อยู่อำเภอรอบนอก หรือต่างจังหวัดต่างก็พากันกลับบ้าน ส่งผลให้ร้านจำหน่ายอาหารซบเซาอย่างมาก เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษา พนักงานบริษัท ข้าราชการ ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็น้อยลงอย่างน่าใจหาย จากปกติจะจำหน่ายอาหารตามสั่งได้วันละหลักพันบาทขึ้น แต่ช่วงนี้สามารถจำหน่ายได้วันละ 500 บาทก็ดีแล้ว อาหารตามสั่งที่ใส่กล่องแบบเหมาตามหน่วยงานราชการต่างๆ ก็ลดน้อยลงมากเช่นเดียวกัน ช่วงเย็นก็ต้องออกไปจำหน่ายอาหารประเภทแกงถุง เพื่อหายรายได้เสริมช่วงกลางวัน เพราะยังมีหนี้สิน ลูกหลานที่ยังต้องส่งเสียอยู่อีก 3-4 คน
“นักเรียนนักศึกษาพากันกลับภูมิลำเนากันหมด แม้บางส่วนจะยังอยู่เพื่อเรียนเสริม เรียนภาคฤดูร้อนก็ค่อนข้างน้อย ส่งผลให้เศรษฐกิจใน จ.อุตรดิตถ์ ซบเซาลงมาก เพราะเม็ดเงินส่วนหนึ่งที่รองจากภาคเกษตรทั้งการทำนาและสวนผลไม้ของชาว อ.ลับแล ก็คือการใช้จ่ายของเด็กนักเรียนนักศึกษา ประกอบกับเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัดก็ค่อนข้างซบเซา บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายอาหารในตลาดสดเทศบาลต่างก็บ่นไปตามๆ กันว่าขายไม่ค่อยดี ประชาชนไม่ค่อยออกมาจับจ่ายสินค้า หากสภาพเศรษฐกิจยังย่ำแย่อยู่เหมือนทุกวันนี้ การดำเนินชีวิตประจำวันก็คงจะอยู่ยากยิ่งขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือ ภาระหนี้สินที่ไม่รู้ว่าจะหาเงินจากที่ไหนมาใช้ จะหาอาชีพอย่างอื่นทำก็ลำบาก เนื่องจากอายุมากแล้ว คงไม่มีใครรับเข้าทำงานในสถานประกอบการ จึงต้องขายอาหารตามสั่งเพื่อเลี้ยงครอบครัวไปวันๆ ท่ามกลางความฝืดเคืองของเศรษฐกิจ” นางมะลิกล่าว
