เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 14 มีนาคม 2561 ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น นายบุญยง แก้วฝ่ายนอก และนายะนัญชัย วงธ์ซ้าย ทนายความจำเลย เปิดเผยการให้การต่อศาลของฝ่ายจำเลยว่า วันนี้ ทางจำเลยได้ให้การต่อศาลเรียบร้อยไปแล้ว 2 ปาก โดยมี น.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ พรมคุณ ได้ให้การเป็นคนแรก และ น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว โนนวังชัย ได้ให้การเป็นคนที่ 2 ซึ่งเปรี้ยวยังคงยืนยันคำให้การที่เคยให้ใว้กับ ผบ.ตร. นำไปเข้าห้องสอบสวนภายในห้องก่อนจะออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2560
โดย นายบุญยง แก้วฝ่ายนอก และนายะนัญชัย วงธ์ซ้าย ทนายความจำเลย ร่วมกันเปิดเผยว่า จำเลยได้ให้การไปแล้ว 2 ปาก คือเบนซ์ กับเปรี้ยว ซึ่ง เบนซ์เป็นคนขึ้นให้การก่อนแล้วเปรี้ยวให้กันทีหลัง คำให้การเราเน้นความจริงที่เคยให้การไว้กับ ผบ.ตร. ที่ ผบ.ตร.ได้มาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2560 เหมือนกันเป๊ะ ซึ่งได้แถลงข่าวก่อนที่จะนำตัวจำเลยทั้ง 5 ส่งมาที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งทาง ผบ.ตร.ก็นำไปเข้าห้องสอบสวนจนกระทั่งทราบเรื่อง และสามารถแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนได้เราก็ยังให้การตามเดิม ซึ่งทั้งหมดเป็นความจริง เปรี้ยวไม่ได้ตั้งใจฆ่า เจอกันโดยบังเอิญไม่ได้มีเจตนามาฆ่าไม่ได้มีการเตรียมการใดๆทั้งสิ้น
และในส่วนเรื่องที่ว่า แอ๋ม ได้นำตำรวจไปค้นบ้าน เราไม่ได้ติดใจมันเป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ปี 2559 และตัวเปรี้ยวเองก็ไม่ได้ถูกดำเนินคดี ไม่ได้เสียหายใดๆ ไม่ติดใจในเรื่องเก่า ซึ่งทางเราได้เพิ่มหลักฐานก็มีการได้ส่งภาพถ่าย ที่เคยให้การนั่งคู่กับ ผบ.ตร. และทางจำเลย ไม่เกี่ยวกับการค้ายาเสพติดข้ามชาติ มีเพียงการเสพยาธรรมดาทั่วไป เอกสารเราก็เสนอไปตาม ตามหลักฐาน ศาลจะเห็นหรือเชื่อหรือไม่นั้นแล้วแต่ดุลพินิจของศาล และอุปกรณ์ที่ให้ในการอำพลางทั้งหมด ได้ซื้อหลังจากที่แน่ใจว่าจำเลยได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งไม่มีของใดๆที่เตรียมการไว้ก่อนที่จะเสียชีวิต ซึ่งนายวศิน หรือ นิว นามพรหม นั้นถูกจับได้ก่อน และนายวศินก็ให้การ ใส่ความเปรี้ยว แจ้ และเอิร์น เต็มที่ ซึ่งตัวเองไม่ผิดเลย ซึ่ง นาบวศินให้การว่ามีหน้าที่ขับรถอย่างเดียว โดยโยนความผิดให้ทั้งสามคน
ในส่วนของเบนซ์ ที่รับเพียงรับของโจรนั้นเพราะด้านทาง และ เปรี้ยว แจ้ เอิร์น และวศินได้หลบหนีไปหาเพื่อน โดยเปรี้ยว กับวศิน นั้นไม่มีบัตรประชาชนไปจึงได้ยืมบัตรของ เบนซ์ เพื่อนำมือถือของผู้ตายไปขาย ซึ่งตามระเบียบใครจะซื้อของขายของจะต้องมีบัตรประชาชนเพื่อยืนยันว่าเราไม่ได้รับของโจร
ด้านการเรียกร้องค่าเสียหายที่ทางจำเลยร้องมา 10 ล้าน บอกว่าคนตาย เราสู้ว่าไม่มีเงินที่จะมาส่งเสียได้เพราะว่าลักษณะของการให้การก็คือ งานที่ทางผู้ตายทำเขาต้องใช้รูปร่างหน้าตาจะไม่อยู่จนแก่ไม่ได้ ซึ่งงานตรงนี้จะสามารถทำได้ไม่เกิน 30 กว่าปี เท่านั้น คือความเสียหายไม่ถึงขนาดนั้น ทั้งหมดศาลจะเป็นคนตัดสินว่าสมควรที่จะจ่ายค่าเสียหายเท่าไหร่ แต่ยังไม่ทราบว่าเท่าไหร่ เพราะเราไปทำให้เขาตายนั่นโดนตัดสินแน่นอน และการให้การทั้ง หมดจะยึดแนวเดียวกันกับเปรี้ยว เพราะว่าความจริงเป็นอย่างนั้น
