สวนปาล์มป่าพรุบาเจาะไฟไหม้ 33 ไร่ โชคดีฝนตกหนักช่วยสกัดไฟหลังลามติดกัน 3 วัน (คลิป)

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอาแซ สูดิง เจ้าของสวนปาล์ม ซึ่งตั้งอยู่ในป่าพรุบาเจาะ บ้านบากง ม. 6 ต.ลูโบ๊ะสาวอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งถูกไฟไหม้สวนปาล์มเนื้อที่ จำนวน 33 ไร่ มาตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมานั้น วันนี้ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้าตรู่ ทำให้เกิดความชื้นในพื้นที่สวนปาล์มทำให้ไฟที่ไหม้อยู่ในบริเวณกลางสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินเท้าเข้าไปฉีดน้ำได้นั้น ต้องรีบถอนกำลังกลับ และยังคงมีควันไฟพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากน้ำฝนได้ชะล้างทำให้สวนปาล์มมีน้ำขังเพิ่มมากขึ้น จึงต้องถอนกำลังกลับ เพื่อให้น้ำฝนทำหน้าที่ช่วยในการดับไฟแทน หลังจากเกิดอาการเมื่อยล้าจากการเดินเท้าลุยดับไฟตลอดระยะเวลา 4 วันที่ผ่านมา

นายอาแซ เปิดเผยว่า สำหรับการแก้ปัญหาล่าสุด ได้ขุดทำเป็นร่องน้ำเข้าไปในพื้นที่ส่วนกลางของสวนปาล์ม เพื่อให้น้ำซึมลงใต้ดินให้มากที่สุด เพื่อช่วยสร้างความซื้อ และสกัดการไหม้ลามไปยังพื้นที่ข้างเคียง มั่นใจว่าไฟจะไม่ไหม้ลามอย่างแน่นอน เพราะน้ำฝนช่วยสร้างความชื้นได้มาก แต่เพื่อความไม่ประมาท ยังคงต้องนอนเฝ้า และตรวจสอบรอบๆ สวนตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ จากการสำรวจภายในบริเวณสวนทั้งหมด พบว่า ต้นปาล์มที่ปลูกไว้ไร่ละ 25 ต้น รวม 1,716 ต้น ได้รับความเสียหายไปเกือบ 80% ซึ่งส่วนที่เสียหายไม่มาก ประมาณ 20% ยังสามารถเลี้ยงใหม่ให้กลับมาสู่สภาพปกติได้ในไม่ช้า ส่วนต้นปาล์มที่ถูกไฟไหม้รากจนล้มตัวลงอีก 80% จะต้องปลูกใหม่ทั้งหมด โดยเฉลี่ยผลผลิตปาล์มที่ปลูกไว้ทั้งหมด 33 ไร่นั้น สร้างรายได้ให้เดือนละไม่น้อยกว่า 13,000 บาท ซึ่งตลอดทั้งปี 2561 รายได้ส่วนนั้นอาจจะหดหายไป และยังจะต้องหาทุนเพื่อจัดซื้อปุ๋ยเพื่อบำรุงต้นในส่วนที่ยังไม่ตายต่อไป ส่วนต้นปาล์มที่ตายไป คงต้องหาทุนซื้อต้นกล้ามาปลูกใหม่ทั้งหมด

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image