ความคืบหน้ากรณีคนร้ายทำร้ายร่างกายทุบหัวหลวงตาศรี หรือพระสมศรี อภิวณโณ อายุ 63 ปี พระลูกวัด วัดหัวสะพานร่วมใจ หมู่ 17 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก สภาพถูกตีที่ศีรษะอย่างรุนแรงจนมีบาดแผลแตกฉีกขาดฉกรรจ์และบวมปูด เลือดไหลอาบเปรอะเปื้อนจีวร ที่ดวงตาซ้ายถูกชกจนเขียวช้ำถูกนำส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช ก่อนมรณภาพ ส่วนคนร้ายได้ขโมยกุญแจขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน กบ 8620 พิษณุโลก หลบหนีไป
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ต.อ.สมศักดิ์ หฤรักษ์ ผกก.สภ.วังทอง เปิดเผยว่า ได้สั่งการเร่งด่วนให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาหลักฐานข้อมูลของคนร้ายรายนี้แล้ว ซึ่งมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก และสอบปากคำพยานแวดล้อมจำนวน 3 ปาก ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์รวมถึงรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย ซึ่งเป็นชายไทยอายุประมาณ 38 ปี ชาว จ.จันทบุรี ตรวจสอบในประวัติอาชญากรรมพบว่ามีหมายจับในพื้นที่ จ.ลพบุรี ข้อหาฐานยักยอกทรัพย์ฯ โดยหนึ่งในพยานให้การว่าคนร้ายเข้ามาในวัด เมื่อช่วงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 24 มีนาคม และได้ถือขวดสุรา 40 ดีกรี มานั่งดื่มบริเวณหน้าศาลพระภูมิเจ้าที่ภายในวัด อีกทั้งยังช่วยกวาดลานวัดจนถึงเย็น ต่อมามีชาวบ้านเห็นชายคนดังกล่าวเดินมาซื้อสุราที่ร้านค้าหน้าวัดอีกหนึ่งขวดเพื่อไปดื่มกินต่อ และบอกชาวบ้านว่าจะมาบวชเป็นพระที่วัดแห่งนี้ ซึ่งชาวบ้านพูดตำหนิไปว่าจะมาบวชเป็นพระแล้วทำไมยังไม่เลิกดื่มสุราอีก เพราะวัดแห่งนี้เคร่งครัดมาก จนถึงเวลาค่ำก็ยังไม่เห็นชายคนดังกล่าวกลับออกมาแต่อย่างใด จนชาวบ้านมาทราบข่าวว่าหลวงตาศรีถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอมอาการสาหัสและเสียชีวิตในที่สุด
พ.ต.อ.กล่าวต่อว่าอาจเป็นไปได้ว่าขณะที่คนร้ายดื่มสุราอย่างเมามายจนถูกหลวงตาศรีว่ากล่าวตักเตือน ทำให้เกิดความไม่พอใจจึงใช้อาวุธไม่ทราบชนิดตีเข้าที่ศีรษะอย่างแรงและชกต่อยที่ใบหน้าจนหงายท้องหมดสติไม่รู้สึกตัว ก่อนแอบขโมยกุญแจรถกระบะของวัดขับหลบหนีไป ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ภายในกุฏิคนร้ายไม่ได้เอาติดมือไปด้วย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบรถกระบะต้องสงสัยอยู่ในเขต อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ส่วนวันนี้ทางตำรวจจะเร่งขออำนาจศาลออกหมายจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน ซึ่งตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังทอง และตำรวจท้องที่อยู่ระหว่างติดตามไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด เพื่อจับกุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมและทำแผนประกอบคำรับสารภาพแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
