เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561 ชาวลำปางที่ทราบข่าวว่า “อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ” ซึ่งเป็นนักปั้นดารามือทอง และยังเป็นผู้จัดการส่วนตัวของดาราหลายคน ได้เดินทางมายัง จ.ลำปาง เพื่อร่วมเป็นคณะกรรมการประกวดเทพบุตร และเทพธิดาสลุงหลวง ประจำปี 2561 ทำให้ชาวลำปางหลายคนเริ่มตั้งคำถาม และวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงได้ย้อนไปถึงเรื่องราว เมื่อครั้งการประกวดในปี 2560 ที่ผ่านมา ถึงความเหมาะสมหรือไม่ ที่ได้แต่งชุดแฟนซีคล้ายกางเกงว่ายน้ำ และคลุมด้วยผ้าลายลูกไม้ขึ้นไปบนเวทีการประกวด ในครั้งนั้นชาวลำปางได้ออกมาตำหนิกันอย่างกว่างขว้าง เพราะเวทีการประกวดดังกล่าวถือว่าเป็นงานประเพณี และวัฒนธรรมล้านนาของ จ.ลำปาง ที่จัดมานาน
กระทั่งในการประกวดปี 2561 นี้ อุ๊บ วิริยะ ก็ได้รับเชิญให้เข้ามาร่วมงาน และเป็นคณะกรรมการอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ที่ อุ๊บ วิริยะ ได้มาร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินเทพบุตร และเทพธิดาสลุงหลวงของ จ.ลำปาง ทั้งนี้ กรณีที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และตำหนิอย่างกว้างขวางเมื่อปีที่ผ่านมา จนเกิดเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ ซึ่งในครั้งนั้น อุ๊บ วิริยะ ก็ได้ออกมาชี้แจงเหตุผลต่อกระแสดราม่าดังกล่าวมาหลายครั้ง จนในปีนี้ในโลกสังคมออนไลน์เฟสบุ๊คก็เริ่มมีการตั้งคำถาม และย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีต และกำลังจะเกิดกระแสดราม่ากันอีกครั้งใน จ.ลำปาง
ผู้สื่อข่าวได้พบกับ อุ๊บ วิริยะ ในงานประกวดเทพบุตร และเทพธิดาสลุงหลวง ประจำปี 2561 รอบคัดเลือก จึงได้มีโอกาสสัมภาษณ์ โดย อุ๊บ วิริยะ ได้ยกมือไหว้ผ่านกล้องบันทึก เพื่อขอโทษต่อชาวลำปาง ก่อนที่จะบอกว่า ผิดไปแล้ว จึงอยากขอโทษชาวลำปาง ตนเองรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นการกระทำที่เผอเรอ ซึ่งที่ผ่านมาจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และถูกตำหนิ ตนขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
“ในปีนี้มีโอกาสได้มาร่วมเป็นคณะกรรมการ จะขอโอกาสแก้ตัว ซึ่งในครั้งนี้มาในชุดเรียบร้อย สำหรับกิจกรรมการประกวดนั้น ถือว่าเป็นประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของชาวลำปางมาช้านาน และเป็นงานกิจกรรมที่ชาวลำปางรัก และหวงแหน ดังนั้น ในปีนี้จึงตั้งใจอยากจะมาแก้ตัว มาเพื่อให้ชาวลำปางได้ทราบว่า พี่อุ๊บ สำนึกแล้ว สำหรับ จ.ลำปาง ที่ตนได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัส ถือว่าเป็นเมืองที่น่ารัก ชาวลำปางน่ารัก และจิตใจดี ที่สำคัญมีรอยยิ้ม และมิตรภาพที่ดีที่มอบให้กัน”นายอุ๊บ วิริยะกล่าว
นายอุ๊บ วิริยะ ยังบอกอีกว่า เรื่องที่ผ่านมานั้น ที่ชาวลำปางออกมาตำหนิก็อาจจะมาความโกรธ ตนเองเข้าใจ เพราะเหมือนกับว่า หากใครมาย่ำยีประเพณีของบ้านเราก็เหมือนกับการมาลบหลู่ ซึ่งตนก็เห็นสมควรว่าเจ้าของบ้านก็ต้องควรออกมาปกป้อง ดูแล และรักบ้านของเรา ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตอนเกิดเรื่องก็มีคนเข้ามาด่าในอินบอกซ์เฟสบุ๊คมากมาย ตอนแรกตนเองก็โกรธเหมือนกัน แต่ในภายหลังก็เข้าใจ ทำให้ใจเย็นมากขึ้น และมีเหตุผลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนคิดว่า เมื่อเราทำผิดพลาดก็ต้องแก้ไข มีการแก้ตัว มีการเริ่มต้นใหม่ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ถือว่าเป็นอุทาหรณ์สอนเรา จนทำให้ตนเองเกิดสำนึก จึงอยากขอความเมตตาต่อชาวลำปาง ได้โปรดให้อภัยด้วย
