เงินบาทขยับแข็งค่า ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นก่อนช่วงวันหยุดยาว

แฟ้มภาพ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้น ทั้งนี้ เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นในระหว่างสัปดาห์ สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค และเงินหยวน ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ยังคงมีประเด็นกดดันต่อเนื่องจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ –จีน อย่างไรก็ดี เงินบาทต้องลดช่วงบวกลงบางส่วน ท่ามกลางกระแสการเลี่ยงความเสี่ยงของนักลงทุนหลังสถานการณ์ในซีเรียมีความตึงเครียดมากขึ้น ประกอบกับมีแรงขายเพื่อปรับโพสิชันก่อนเข้าช่วงวันหยุดยาวของตลาดในประเทศ

ในวันพฤหัสบดี (12 เม.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากระดับ 31.26 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันพฤหัสบดีก่อนหน้า (5 เม.ย.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (16-20 เม.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.05-31.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาการเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวน ความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาเพื่อลดข้อพิพาททางการค้าของสหรัฐฯ และจีน ตลอดจนรายงานนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศคู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯ ที่อาจจะมีการเปิดเผยออกมาด้วยเช่นกัน ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย ดัชนีภาวะธุรกิจของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนเม.ย. ยอดค้าปลีก ข้อมูลการสร้างบ้าน ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐฯ เดือนก.พ. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามข้อมูลจีดีพีไตรมาส 1/61 ของจีน สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งอาจมีผลต่อเนื่องต่อทิศทางของเงินดอลลาร์ฯ ด้วยเช่นกัน

Advertisement

ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนีตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นก่อนช่วงวันหยุดยาว โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,767.17 จุด เพิ่มขึ้น 1.57% จากสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ดี มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ปรับลดลง 15.52% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 54,246.94 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 485.31 จุด เพิ่มขึ้น 2.05% จากสัปดาห์ก่อน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากการซื้อเก็งกำไรตลอดสัปดาห์ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารที่ราคาปรับตัวลดลงไปก่อนหน้านี้ และกลุ่มพลังงาน ที่ได้รับอานิสงส์จากทิศทางราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนก็ส่งสัญญาณผ่อนคลายลง อย่างไรก็ดี ดัชนี SET ได้รับแรงกดดันเล็กน้อยในช่วงปลายสัปดาห์ ท่ามกลางประเด็นทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ กับซีเรีย แต่ยังสามารถประคองตัวให้ปรับเพิ่มขึ้นได้

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (16-20 เม.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,755 และ 1,745 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,785 และ 1,810 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ประเด็นต่อเนื่องของมาตรการทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ข้อมูลการสร้างบ้าน ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ข้อมูลจีดีพีไตรมาส 1/61 ของจีน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image