จากกรณี พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วย อาทิ บก.ปปป. กองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และทหารปตอ. ว่า 300 นาย เปิด “โอเปอร์เรชั่น” ปฏิบัติการปราบฮั้ว จัดซื้อรถดูดโคลน ล็อต 2 ปูพรมตรวจค้นเป้าหมายบ้านผู้กว้างขวางในท้องถิ่น 10 จังหวัดทั่วประเทศ ประกอบด้วย จ.ชลบุรี จ.นนทบุรี จ.ระยอง จ.สมุทรปราการ จ.สิงห์บุรี จ.ศรีสะเกษ จ.เพชรบูรณ์ จ.เชียงใหม่ จ.พิษณุโลก และ จ.สมุทรสาคร ก่อนแจ้งข้อหาเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 57 และ พ.ร.บ.ฮั้วประมูลกับ 2 ผู้บริหารท้องถิ่นใน จ.ระยอง และ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 13เมษายน พ.ต.อ.จักษ์ เพ็งสาธร รองผบก.ปปป.หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบฮั้วประมูล เปิดเผยว่า หลังจากการลงพื้นที่ปูพรมลง 10 จังหวัดเป้าหมาย ตนยังไม่ได้รับรายงานว่ามีตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดที่เหลือ อีก4 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ สิงห์บุรี สมุทรสาคร และศรีสะเกษ เข้าร้องทุกข์ อาจจะเป็นไปได้ว่าติดวันหยุดราชการ ช่วงสงกรานต์ คาดว่าหลังจากทางราชการเปิดทำงานตามปกติแล้วอาจจะมีเข้ามาร้องทุกข์เพิ่ม ในส่วนของสำนวนคดีฮั้วประมูลรถดูดโคลนที่จะนำส่ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้นไม่จำเป็นต้องเรียกใครมาสอบเพิ่ม เนื่องจากสืบสวนสอบสวนพบพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่า มีเจ้าหน้าที่กระทำผิดกฎหมาย รวมทั้ง บริษัทที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และมีการอนุมัติร้องทุกข์จากตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัด อย่างไรก็ตามทาง ปปป.จะส่งสำนวนที่มีการร้องทุกข์แล้วให้ทาง ป.ป.ช.ในวันที่วันที่ 26-27เมษายนนี้
