เมื่อวันที่ 22 เมษายน พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.)ด้านบริหาร ในฐานะกรรมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. .. ชุดนายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธาน เปิดเผยว่า ตนเป็นหนึ่งในกรรมการชุดใหม่ ที่ตั้งขึ้น 16 คน เพื่อทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปตำรวจ โดยในกรรมการชุดนี้ มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายธานิศ เกศวพิทักษ์ อดีตรองประธานศาลฎีกา นายวรรณชัย บุญบำรุง รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ศุภชัย ยาวะประภาษ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ อดีตคณบดีรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และตน ซึ่งทั้ง 5 คนเป็นอดีตคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ตามรัฐธรรมนูญ ร่วมอยู่ด้วย
รองผบ.ตร.กล่าวว่า ในกรรมการทั้ง 16 คน นอกจากตนที่เป็นตำรวจในราชการเพียงคนเดียว มี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน อดีตผบช.ภ.1 และอดีตรองผู้ว่าราชการกทม. ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการตำรวจร่วมเป็นกรรมการ โดยนายมีชัย มีแนวทางให้เร่งดำเนินการนัดประชุมสัปดาห์ละ 3 วัน และกำหนดว่าภายใน 2 เดือน จะได้ร่างกฎหมายตำรวจและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปตำรวจได้ หลังจากร่างกฎหมายลงตัวตกผลึกจะได้นำไปสู่กระบวนการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ต้องทำในการปฏิรูปตำรวจต่อไป
“การทำงานของคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ตามรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ไม่ถือว่าเปล่าประโยชน์ ไม่มีอะไรที่ทำแล้วเปล่าประโยชน์หรอก เพราะการแก้ปัญหาขององค์กรตำรวจทำให้ตำรวจมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นตามที่สังคมมองว่าควรต้องปรับต้องแก้ในประเด็นต่างๆนั้นทำได้หลายวิธี เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่การตอบคำถามวิทยาศาสตร์ แต่เป็นการแก้ปัญหาสังคม ในเรื่องเดียวกัน ปมปัญหาเดียวกัน อาจมีมากกว่า 10 วิธีแก้ไขให้สำเร็จ กรรมการ 10 ชุดก็มองได้ 10 แง่มุม 10 วิธี หรือมากกว่านั้น มันเป็นมุมมองของแต่ละคน คณะกรรมการชุดใหม่ก็คล้ายนับหนึ่งใหม่ แต่ก็นำร่างกฎหมาย แนวทางในเรื่องต่างๆที่คณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เสนอขึ้นมา มาดูทั้งหมด เพราะที่ผ่านมาคณะทำงานชุด พล.อ.บุญสร้าง เป็นประธานก็ทำออกมาตามกรอบรัฐธรรมนูญแล้ว ชุดใหม่ก็มาพิจารณากันว่าจะเพิ่มตรงไหนให้สมบูรณ์ขึ้น ไม่ถึงกับโละ หลักการอันไหนถ้าดีก็ไปต่อ ต้องเพิ่ม ปรับ เปลี่ยนบ้าง หาแนวทางที่ลงตัว ตกผลึกในชุดนี้ ซึ่งไม่มีวิธีไหนดีที่สุดหรอก เนื่องจากยังไม่มีผลการปฏิบัติเกิดขึ้น จึงบอกไม่ได้ว่าวิธีไหนถูกต้องที่สุด ดีที่สุด ตราบใดยังไม่ได้เริ่มทำจริง ยังไม่เห็นผล” รองผบ.ตร. ตำรวจในราชการหนึ่งเดียวในกรรมการปฏิรูปตำรวจชุดล่าสุด กล่าว
พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า ตนในฐานะที่เป็นตำรวจในราชการคนเดียว ที่อยู่ในกรรมการก็จะทำหน้าที่เป็นปากเสียงของตำรวจ สะท้อนเรื่องจริงให้กรรมการได้รับทราบ ถึงปัญหา และการแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ แม้ผลสรุปต้องอยู่ที่เสียงส่วนใหญ่ในกรรมการ แต่หน้าที่ของตนต้องเสนอความจริงให้กรรมการได้รับทราบมากที่สุด เพื่อจะได้นำไปสู่แนวคิดแนวทางที่อยู่บนพื้นฐานของความจริง
รองผบ.ตร.กล่าวว่า การปฏิรูปตำรวจต้องทำ 3 อย่าง คือ 1.แก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรค การทำงาน ออกกฎหมายส่งเสริม สนับสนุนการทำงานทุกมิติ ซึ่งกรรมการชุดใหม่นี้กำลังทำ 2. แก้ในเชิงบริหาร บางเรื่องเช่นเรื่องบุคคล การเพิ่มกำลังพล การสนับสนุนงบประมาณอย่างสอดคล้องกับสถานะประเทศก็เป็นสิ่งที่ต้องเสนอปรับแก้ใช้อำนาจในคณะรัฐมนตรี อันนี้ก็ต้องทำคู่ขนานกันไปได้เลยในตอนนี้ 3.การปรับภายในองค์กรตำรวจเอง ตอนนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ประบหลายอย่าง ทั้งเรื่องคน จัดแถวจัดระเบียบวินัย การยกระดับการให้บริการประชาชน รวมไปถึงการตั้งงบประมาณให้สอดคล้องลงตัว อะไรก็ตามทีเกิดขึ้นจากปัจจัยภายในองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็กำลังปฏิรูปตัวเอง
