เมื่อวันที่ 23 เมษายน สัตวแพทย์หญิง วัชรา ศากรวิมล นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ชุมพร) เปิดเผยว่า หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีคำสั่งปิดการลงเล่นน้ำทะเล ที่หาดทรายน้อย ใกล้วัดถ้ำเขาเต่า เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากปัญหานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกฉลามกัดบาดเจ็บสาหัส ล่าสุด การสำรวจติดตามของคณะทำงานพบว่ามีฉลามหัวบาตร 4-6 ตัว ความยาว 1–1.50 เมตรเป็นลูกฉลาม เข้ามาหากินใกล้ชายฝั่งในช่วงเย็นถึงค่ำ ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูง
สำหรับช่วงกลางวันฉลามจะหลบอยู่ในซอกหิน ส่วนการสำรวจเส้นทางการหากิน จะมีการประชุมในคณะทำงานเพื่อหาผลสรุปอีกครั้ง ร่วมกับหลายหน่วยงาน พบว่าที่ผ่านมามีชาวประมงในพื้นที่ชุมชนเขาเต่าให้ข้อมูลมีฉลามหัวบาตรติดเครื่องมือประมง นอกจากนั้นจะลงพื้นที่เพื่อสอบถามข้อมูลจากชาวประมงในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี อ.หัวหิน อ.ปราณบุรี และ อ.สามร้อยยอด ส่วนการวางทุ่นตาข่ายเชื่อว่าเบื้องต้นสามารถป้องกันฉลามไม่ให้รับผลกระทบและคนได้รับอันตราย
ขณะเดียวที่บริเวณหาดทรายน้อย นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน สั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศกิจจำนวน 2 นายดูแลความปลอดภัยร่วมกับ สภ.หัวหิน ตลอดเวลาบริเวณที่มีป้ายปักเตือนนักท่องเที่ยว ห้ามลงเล่นน้ำทะเล นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ปฏิบัติตามโดยเดินเล่นบริเวณริมหาดเท่านั้น สำหรับวัดถ้ำเขาถ้ำมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปเฝ้ารอชมฉลามหัวบาตร สร้างบรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมาก
พระครูบุญญาภิราม หรือ “พระอาจารย์แดง” เจ้าอาวาสวัดถ้ำเขาเต่า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค “แดง จิตต์วารินทร์” พร้อมภาพคนยืนตกปลาบริเวณโขดหิน ระบุว่า “เขาชั่งกล้าแท้ ถ้าฉลามคิดเบ็ดคงลากตกทะเลแน่ เมื่อคืนเจ้าหน้าที่บอกฉลามหัวบาตรเข้าพร้อมกันตอนดึก 8 ตัว แต่เป็นรุ่นเล็ก ความยาว 2 เมตรกว่า หายไปหลายวันแล้ว มีเจ้าหน้าที่มาเฝ้านับจำนวนการเข้าออกของฉลามทุกคืน ขณะนี้สาเหตุที่ปลาฉลามเข้ามาน้อย น่าจะมาจากแสงไฟ และแสงไฟฉายมันกำลังจะขึ้นมาเอาไฟฉายไปส่องตามันเลยตื่นหนี”
