ชาวบ้านยะลาร้อง ‘ผญบ.หญิง’ สวมหมวกผู้มีอิทธิพลร่วมนายทุนรุกป่าใหญ่ต้นน้ำกว่า 30 ไร่

เมื่อวันที่ 30 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 6 บ้านนิคมกือลอง ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ร้องเรียนว่า พบการตัดไม้ทำลายป่าอันอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา สร้างความเสียหายและผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศทั้งป่าไม้และสัตว์ป่า ที่สำคัญ เป็นฝีมือของผู้ใหญ่บ้านหญิงคนหนึ่งมีส่วนร่วมกระทำความผิดครั้งนี้ ทำหน้าที่สั่งการ เสมือนเป็นผู้มีอิทธิพลจนเป็นที่น่าเกรงขาม ไม่มีชาวบ้านกล้าแสดงตัวคัดค้าน และเชื่อกันว่ามีนายทุนใหญ่อยู่เบื้องหลัง เพราะการตัดโค่นไม้ใหญ่และชักลากไม้ออกจาป่าจะต้องใช้เครื่องจักรและกำลังคน ส่วนพื้นที่ที่ถูกแผ้วถางจะถูกนำจัดสรร ขายต่อให้นายทุนนำพืชผลเข้ามาเพาะปลูกแทน

  

ชาวบ้านรายหนึ่งขอสงวนชื่อและนามสกุล กล่าวว่า ผู้ใหญ่บ้านรายนี้เป็นผู้หญิงเคยอ้างถึงการเข้าไปร่วมขบวนการตัดไม้ทำลายป่าว่า เป็นการร่วมพัฒนาพื้นที่และช่วยเหลือชุมชนให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น แต่ไม่มีชาวบ้านหลงเชื่อเพราะไม้ที่ถูกตัดเป็นไม้หายากที่ขึ้นตามธรรมชาติในป่าใหญ่ และเป็นไม้เศรษฐกิจทั้งสิ้น ล่าสุดพบว่ามีการขยายพื้นที่ทำลายป่าอันอุดมสมบูรณ์ไปแล้วกว่า 30 ไร่

Advertisement

“ที่ผ่านมาชาวบ้านหมู่ 6 บ้านนิคมกือลอง ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ร่วมมือกันในการรักษาและอนุรักษ์ป่าใหญ่ที่ติดกับชุมชนเพื่อให้ถึงลูกหลาน แม้ว่าจะเคยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองระดับนายอำเภอ และข้าราชการระดับสูงเข้ามาตรวจสอบแล้วพบว่ามีการรุกป่าจริงได้เพียงแต่บอกให้ผู้กระทำผิดเหล่านี้ยุติการกระทำเท่านั้น พอกลับไปไม่นานกลุ่มมอดไม้ก็ยังเดินเครื่องจักรเข้าตัดไม้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่เกรงกลัวแต่กลับแสดงการท้าทาย มีการถางพื้นที่แล้วนำพวกพืชผลมาปลูกแทน ทั้งทุเรียน ลองกอง ยางพารา เข้าแซมพื้นที่ป่า”

ชาวบ้านรายดังกล่าวให้รายละเอียดว่า ไม้ที่ตัดเหลือแต่ตอเป็นไม้ใหญ่อายุเป็นร้อยปี พบว่ามีไม้หลุมพอ เป็นเนื้อแข็งมักเอาไปทำเครื่องเฟอร์นิเจอร์จะถูกตัดออกไปจำนวนมาก เมื่อนำไปแปรรูปจะได้ไม้แผ่นใหญ่ยาวไร้รอยต่อเป็นที่ต้องการของตลาด ที่ผ่านมา เสียงเลื่อยไม้ในป่าใหญ่จะดังมาถึงชุมชนของชาวบ้าน ก็จะทราบกันดีว่ามีการตัดไม้กันอย่างต่อเนื่อง เคยพบว่า มีการตัดไม้หลุมพอที่เหลือแต่ตอ วัดความกว้างของหน้าตอไม้ประมาณ 2.50 เมตร มีความยาวกว่า 30 เมตร

Advertisement

ชาวบ้านอีกรายหนึ่งเปิดเผยว่า ป่าไม้ที่ถูกทำลายอย่างต่อเนื่องกำลังส่งผลกระทบถึงน้ำตกสุขทาลัย ที่มีน้ำไหลแรงตลอดทั้งปี และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักเดินทางมา นอกจากนั้นป่าไม้เหล่านี้ยังเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำปัตตานี และอีกหลายสายสำคัญ ที่หล่อเลี้ยงเกษตรกรและชาวบ้านที่ใช้น้ำเหล่านี้ในการดำรงชีพ ขณะนี้ชาวบ้านไม่สามารถพึ่งพาเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐได้อีกแล้ว เพราะข้าราชการหลายคนถูกส่งมาปฏิบัติหน้าที่แล้วก็ไป ชาวบ้านนิคมกือลองต้องใช้ชีวิตที่นี่ไปตลอดชีวิตก็ต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสียและหวั่นเกรงอิทธิพลภัยมืดจากนายทุนเหล่านี้ โดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้าน จึงทำได้เพียงตั้งกลุ่มแสดงความเห็นผ่านโลกโซเชียลให้โลกภายนอกได้รับรู้เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติงานหน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคง ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบป่าไม้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ข้อมูลว่า เคยมีการดำเนินการยื่นเรื่องดังกล่าว รายงานข้อมูลความเสียหายและภาพหลักฐานไม้ใหญ่ถูกตัด ส่งต่อไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง แต่ก็มีการโยนลูกกันไปมา ทั้งนี้ป่าไม้ที่ถูกรุกตัดอย่างง่ายดายนี้อยู่ในเขตครอบครองของนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ในสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

โดยก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.อรุณ กุลกัลยา คณะทำงานหน่วยข่าวกรอง และหัวหน้าชุดปฏิบัติงานภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เคยนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ ป่าสงวนนิคมฯกือลอง พบการบุกรุกป่าไม้จำนวนมากกว่า 3 จุด เนื้อที่ร่วมกว่า 20 ไร่ ส่วนใหญ่จะลักลอบแผ้วถาง จับจองพื้นที่ตัดโค่นต้นไม้ใหญ่ แต่จากการปฏิบัติงานในครั้งนั้น ไม่สามารถยับยั้งกลุ่มขบวนการบุกรุกป่าไม้ได้ และยังมีการเข้าไปบุกรุกขยายอย่างต่อเนื่อง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image