เมื่อวันที่ 30 เมษายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความของนายวิศิษฐ์ เอี่ยมวิโรจน์ฤทธิ์ ผู้บริหารโรงแรมป่าตองพารากอน เตรียมยื่นถวายฎีกาถึงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอความเป็นธรรมภายหลังถูกทหารกองทัพภาคที่ 4 จำนวน 9 นาย บุกเข้าโรงแรมป่าตองพารากอน ว่า เรื่องนี้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ได้ชี้แจงไปแล้วว่า ทหารคนใดที่ทำตัวเป็นมาเฟียก็ต้องดำเนินการ ส่วนจะให้กองทัพภาคที่ 4 เข้าไปเจรจากับผู้บริหารโรงแรมใน จ.ภูเก็ต เพื่อไม่ให้เกิดการถวายฎีกาหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องของกองทัพภาคที่ 4 ที่จะต้องไปเจรจา
“เขารู้ดีอยู่แล้วว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพื้นที่ภาคใต้มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้าใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ หรือทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561 นายทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 4 ประมาณ 9 นาย เดินทางไปที่โรงแรมป่าตอง พารากอน จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามมาตรา 44 และ คำสั่ง ที่ 13/2559 ภายหลังมีพนักงานของโรงแรมดังกล่าวไปร้องศูนย์ดำรงธรรมว่า ผู้บริหารโรงแรม ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลและข่มขู่ให้ออกจากงานโดยไม่เป็นธรรม จนกระทั่งมีการเผยแพร่คลิปกรณีที่ทหารทั้ง 9 นาย มีพฤติกรรมข่มขู่ผู้บริหารโรงแรมป่าตอง พารากอน
ในขณะเดียวกัน พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ให้ทหารพระธรรมนูญ ไปแจ้งความเอาผิดบุคคลที่เผยแพร่คลิป โดยกล่าวอ้างว่ามีการตัดต่อคลิปดังกล่าวจนทำให้เกิดความเสียหาย พร้อมทำเรื่องไปยังต้นสังกัดของนายตำรวจ 2 นาย ให้ย้ายออกจากพื้นที่ ภายหลังติดตามดูแลผู้บริหารโรงแรมป่าตอง พารากอน