ปฏิรูปตำรวจ ฉ.’มีชัย’ โละ ก.ต.ช. ผ่าตัด ก.ตร. หั่นบิ๊กสีกากีออก สูตรแต่งตั้งห้ามยกเว้นฯ ให้คะแนน แก่-เก่ง-มวลชน

(ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก นายคำนูณ สิทธิสมาน)

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม นายคำนูณ สิทธิสมาน กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย หนึ่งในกรรมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ..ซึ่งมี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เป็นประธาน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นรองประธาน ได้โพสต์ข้อความ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.และเดินหน้าปฏิรูปตำรวจ ใจความว่า

จากการคณะกรรมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจฯ นัดที่ 5 ที่ห้องประชุมปรีดี พนมยงค์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีฎา เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ในประเด็นองค์ประกอบของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร. )และหลักเกณฑ์พื้นฐานของการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในทุกระดับ

นายคำนูณ ระบุว่า คณะกรรมการเห็นควรในเบื้องต้นให้ยกเลิกคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) และโอนภารกิจทั้งหมดมาให้ก.ตร.ปฏิบัติแทน โดยกำหนดองค์ประกอบใหม่ของก.ตร.มี 15 คน ดังนี้ ให้มีกรรมการโดยตำแหน่ง 7 คน ประกอบด้วย  นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรัฐบาล เป็นประธาน โดยจะกำหนดให้นายกรัฐมนตรีต้องมาประชุมด้วยตนเอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) รองผบ.ตร.จำนวน 2 คนที่มาจากแท่งสืบสวนสอบสวน และแท่งป้องกันปราบปราม และจเรตำรวจแห่งชาติ 1 คน อัยการสูงสุด และ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม
ขณะที่ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากการเลือกโดยข้าราชการตำรวจทั่วประเทศโดยตรงและเป็นการลับ 2 ประเภทรวม 8 คน จำแนกเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิที่เคยเป็นข้าราชการตำรวจ 5 คน ผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่เคยเป็นข้าราชการตำรวจ 3 คน โดยเลือกจากรายชื่อที่เสนอโดยนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา ฝ่ายละ 3 คน

 

นายคำนูณ เปิดเผยด้วยว่า อำนาจหน้าที่ของก.ตร.จะปรับเปลี่ยนไปโดยพื้นฐาน จากองค์กรที่ทำหน้าที่แต่งตั้งโยกย้ายเป็นหลัก มาเป็นองค์กรกำหนดนโยบายและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ และกำกับควบคุมการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ โดยจะยังคงอำนาจหน้าที่ในการแต่งตั้งโยกย้ายเฉพาะตำแหน่งผบ.ตร.เท่านั้น และอาจจะรวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับสูงอีกบางตำแหน่งที่จะได้พิจารณากันในโอกาสต่อไป

Advertisement
“กฎเกณฑ์ในการแต่งตั้งโยกย้ายจะเขียนระบุไว้ให้ชัดเจนในกฎหมายหลักไม่ใช่กฎหมายลำดับรอง และห้ามแก้ไขยกเว้น เว้นแต่จะมีเหตุจำเป็นสุดวิสัย ในเบื้องต้นนี้กำหนดให้มีการจัดทำบัญชีรายชื่อข้าราชการตำรวจที่จะได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายไว้ล่วงหน้า โดยข้าราชการตำรวจแต่ละคนจะได้รับคะแนนเฉพาะตัวจากเกณฑ์ 3 องค์ประกอบ องค์ประกอบที่หนึ่ง คือ อาวุโส องค์ประกอบที่สอง คือ ผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัด มีหลักฐานและมีดัชนีชี้วัดชัดเจน องค์ประกอบที่สาม คือ ความพึงพอใจของประชาชน โดยคะแนนที่แต่ละคนจะได้รับ ทิ้งน้ำหนักที่องค์ประกอบที่หนึ่ง 50 เปอร์เซ็นต์ องค์ประกอบที่สอง 30 เปอร์เซ็นต์ และองค์ประกอบที่สาม 20 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ทั้ง 3 ประการนี้จะเขียนรายละเอียดไว้ในกฎหมายหลัก ทั้งความหมาย ตัวชี้วัด กรรมการผู้ให้คะแนน ระบบการให้คะแนน การปรับคะแนน รวมถึงกลไกที่สามารถให้ข้าราชการตำรวจทุกคนสามารถตรวจสอบและมีสิทธิโต้แย้งคะแนนที่ตนเองได้รับ บัญชีรายชื่อจะจัดทำแยกเป็น 4 แท่งตามโครงสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติใหม่ หากมีการแต่งตั้งโยกย้ายผิดหลักเกณฑ์เกิดขึ้น และศาลปกครองวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำผิด ให้ถือว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนั้นเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157” นายคำนูณ ระบุ
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image