ธ.ก.ส.เตรียม 2.3 แสนล.ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยเกษตรกร

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในปีบัญชี2561 (1 เมษายน 2561-31 มีนาคม 2562) ธ.ก.ส.เตรียมวงเงินกู้กว่า 2.3 แสนล้านบาท เพื่อปล่อยสินเชื่อช่วยเกษตรกรกว่า 15 โครงการในดอกเบี้ยต่ำอัตรา 0.01-4%ต่อปี เช่น มาตรการเกษตรประชารัฐเพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ประกอบด้วย โครงการลดต้นทุนให้เกษตรกรดอกเบี้ย 4%ต่อปี วงเงิน 90,000 ล้านบาท และโครงการส่งเสริมการผลิตหรือจัดหาปุ๋ยสั่งตัดให้สถาบันเกษตรกร คิดดอกเบี้ยMLR-3 (ปัจจุบัน MLR เท่ากับ 5%) วงเงิน 3,600 ล้านบาท โครงการสินเชื่อSMAEs ดอกเบี้ย 4% วงเงิน 15,000 ล้านบาท โครงการสินเชื่อกรีนเครดิต ดอกเบี้ย MRR-1 และ MLR-0.5 (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 7% ) โครงการสินเชื่อเพื่อปรับโครงสร้างการผลิตการเกษตรสู่ความยั่งยืน ดอกเบี้ย 4% วงเงิน 5,000 ล้านบาท โครงการสินเชื่อยกระดับปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อพัฒนาอาชีพผู้มีรายได้น้อย (XYZ) ดอกเบี้ย0.01 วงเงิน 15,000 ล้านบาท สินเชื่อเพื่อพัฒนาอาชีพผู้มีรายได้น้อย ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน เป็นต้น

นายอภิรมย์กล่าวว่า นอกจากนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้จะมีการเสนอครม.ให้ธ.ก.ส.ดำเนินการเกี่ยวกับสินเชื่อสหกรณ์รวบรวมผลผลิตวงเงิน 1,500 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมรองรับกับผลไม้กำลังออกสู่ตลาด โดยสินเชื่อดังกล่าวธ.ก.ส.จะนำไปล่อยกู้ให้กับสหกรณ์ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้สหกรณ์นำเงินไปรับซื้อผลไม้ที่มีราคาตกต่ำทุกชนิกจากพี่น้องเกษตรกรอีกทอดหนึ่ง

นายอภิรมย์กล่าวต่อว่า ในปีบัญชี 2561 ธ.ก.ส.ตั้งเป้าสนับสนุนสินเชื่อ 750,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีกำไรประมาณ 10,000 ล้านบาท จากปีบัญชี 2560 (1 เมษายน 2560-31 มีนาคม 2561) กำไรสุทธิ 9,863 ล้านบาท โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคชนบทระหว่างปีทั้งสิ้น 673,693 ล้านบาท ทำให้มีสินเชื่อคงเหลือ 1,369,301ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากต้นปีบัญชีจำนวน 92,257 ล้านบาท หรือ 7.22% มียอดเงินฝากรวม 1,529,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากต้นปี 123,240 ล้านบาท หรือ 8.76% มีสินทรัพย์รวม 1,743,597 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.79% หนี้สินรวม 1,612,656 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.13% ส่วนหนี้เสีย(เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 4.34% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง 12.04% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนที่กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 8.50%

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image