รอมแพงเผย ‘แม่การะเกด’ ยกครอบครัวย้ายไปเพชรบุรี ใน ‘พรหมลิขิต’ เหตุเกิดยุคพระเจ้าท้ายสระ

เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ กรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยศิลปากรร่วมกับสมาคมนักศึกษาเก่าคณะโบราณคดี จัดงาน “เกร็ดประวัติศาสตร์ที่ยังคาใจ จากศิลปากรสู่บุพเพสันนิวาส”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในงานคึกคักอย่างมากโดยมีผู้ทยอยเข้าร่วมงานตั้งแต่ก่อนถึงเวลาเริ่มงานเป็นเวลานาน ส่วนหนึ่งแต่งชุดไทยในยุคสมัยต่างๆ สร้างสีสันอย่างยิ่ง

ในตอนหนึ่ง นางจันทร์ยวีร์ สมปรีดา หรือ “รอมแพง” ผู้แต่งนิยายกล่าวว่า ก่อนเขียนเรื่องบุพเพสันนิวาส ซึ่งเป็นเรื่องที่ 17 ของตน เป็นคนชอบดูละคร อ่านนิยายย้อนยุค เช่น สายโลหิต และทวิภพ จึงเกิดแรงบันดาลใจ โดยเลือกยุคพระนารายณ์เพราะมีความรุ่งเรืองหลายด้าน แต่ยังไม่ค่อยมีคนเขียนนิยายเกี่ยวกับยุคนี้ หากมีก็มักมีเนื้อหาที่ตึงเครียด ในขณะที่ตนชอบเขียนเรื่องโรแมนติคคอมเมดี้

“รอมแพง” ยังเล่าถึงภาคต่อของ “บุพเพสันนิวาส” ซึ่งจะใช้ชื่อว่า “พรหมลิขิต” โดยระบุว่า คิดที่จะเขียนขึ้นตั้งแต่ก่อนมีละครบุพเพฯ ฉายแล้ว โดยตนได้ไปเรียน “อบร่ำ” และยังสมัครเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโท ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่เรียนไม่จบเรื่องจากมีงานเขียนจำนวนมาก

Advertisement

สำหรับเรื่องพรหมลิขิต จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัชกาล “พระเจ้าท้ายสระ” ซึ่งยังไม่ค่อยมีคนศึกษาเพื่อเขียนนิยาย โดยบุตรชายของแม่การะเกดกับขุนศรีวิสารวาจาจะไปอยู่ที่เมือง “พิษณุโลก” ส่วนครอบครัวของแม่การะเกดจะยกครัวไปอยู่ที่เมือง “เพชรบุรี” เนื่องจากรู้ประวัติศาสตร์ล่วงหน้าซึ่งจะเกิดสงครามขึ้น

รอมแพงยังเปิดเผยด้วยว่า เดิมที่เคยจะให้นางเอกของเรื่องพรหมลิขิตเป็นผู้หญิงที่ชอบศัลยกรรมนั้น ล่าสุดตนปรับเปลี่ยนให้แค่ “รักสวยรักงาม” เนื่องจากเกรงจะมีประเด็นอ่อนไหวเกี่ยวกับผู้ทำศัลยกรรม ดังนั้น นางเอกคนนี้อาจไปคิดค้นมาสคาร่า และบลัชออนในอดีตก็เป็นได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image