เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม นายไพศาล เพชรวรา ที่ปรึกษากลุ่มรีสอร์ทเขาค้อและทนายอาสาชาวบ้าน กล่าวชี้แจงถึงกรณีมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อเกาะติดกระแสข่าวป่วนการปฏิบัติการ 135 รีสอร์ทนอกแปลง รอส.และอยู่ในเขตป่าเขาค้อ ของคณะเจ้าหน้าที่ว่า จริงๆ แล้วเริ่มจากคำบางคำที่เจ้าหน้าที่ลงมาและสื่อออกไป โดยวิสัยของชาวบ้านถ้าเขียนคำว่าบุกรุก ในความรู้สึกของชาวเขาค้อก็เข้าใจกันว่า พวกเขาไม่ใช่คนบุกรุก เมื่อไปบอกว่าเขาบุกรุกชาวบ้านก็เข้าใจกันเอง และยิ่งข่าวที่ออกมาเกือบทุกช่อง คือบุกรุก รื้อถอน และยังนำไปเทียบเคียงกับเคสโน้นเคสนี้อีก จนทำให้เกิดความเข้าใจว่า บุกรุกเมื่อไหร่จะต้องถูกดำเนินคดีรื้อถอนทันที นั่นคือความรู้สึกและความเข้าใจของเขา เพราะชาวบ้านคงไม่เข้าใจในรายละเอียด ส่วนการที่ทางหน่วยราชการมาเชิญพวกเราไปในฐานะตัวแทนหรือผู้นำในพื้นที่ จริงๆ พวกเราก็พยายามบอกย้ำว่ายินดีให้ความร่วมมือและไม่ได้ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น
นายไพศาลกล่าวว่า แต่ทั้งนี้มีกระแสข่าวว่า เราไปปลุกระดม ทั้งที่ความจริงพวกเราไม่รู้เรื่อง อย่างตนก็ทำงานช่วยชาวบ้านหลายๆ กลุ่มมาตลอด ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ว่าทางเจ้าหน้าที่จะมีการจับกุมหรือดำเนินคดีอะไร สิ่งที่เราจะกระทำก็คือจะอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติต่อไป และพร้อมจะเข้าสู่ระบบตามกฎหมาย ที่ผ่านมามีการอบรมให้ความรู้เรื่องกฎหมายโรงแรมเพื่อให้มีการปรับตัวเข้าสู่ระบบ และหากมีการฝ่าฝืนกระทำลงไปก็จะบอกหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐ อาทิ การก่อสร้างต่างๆ ซึ่งเราก็พยายามห้ามปรามแต่ก็ยังมีการฝืน
นายไพศาลกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่คณะเจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการในครั้งนี้ ชาวบ้านเห็นด้วยหรือไม่ ต้องบอกว่าชาวบ้านไม่เห็นด้วยเพราะมองว่า ไม่รู้ว่าคณะเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่เป็นชุดไหน ขนาดตนยังไม่รู้เลย ชาวบ้านบอกป่าไม้ลงมา ในขณะที่ป่าไม้ก็มีทั้งกรมอุทยานฯ ป่าไม้ และทหารลงมาก็มีทั้งทำหน้าที่ กอ.รมน. และยิ่งไปบอกว่า มีคณะกรรมการ ค.ป.ป.ตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ยิ่งงงไปใหญ่ อย่าว่าแต่ชาวบ้านเลย บางทีภาครัฐด้วยกันเองยังไม่เข้าใจเลย อยากให้เกิดความชัดเจนว่าคณะทำงานที่ตั้งมามีอย่างไร และมีหน่วยงานไหนมอบอำนาจให้มาดำเนินการ และใช้อำนาจจากกฎหมายอะไรให้ดำเนินการ จะได้ชี้แจงกับชาวบ้านได้ถูก
