วันที่ 16 พฤษภาคม น.ส.ชฎาภรณ์ ประชาเยี่ยม อายุ 40 ปี ชาวบ้านม่วงนาสีดา ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ออกมาร้องทุกข์ผ่านสื่อ หลังเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ตำรวจ สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากปัญหารถบรรทุกหิน บรรทุกทราย ที่สัญจรไปมา ตามถนนสาย นครพนม – ท่าอุเทน และเชื่อมไปยัง อ.บ้านแพง จ.นครพนม โดยสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้าน ที่มีบ้านเรือนอยู่ติดถนน รวมถึง ผู้ที่สัญจรไปมา เนื่องจากรถบรรทุกหิน บรรทุกทราย ส่วนใหญ่ไม่ยอมคลุมผ้าใบ และมีการบรรทุกหิน ทราย จำนวนมาก จนล้นกระบะ ทำให้ หินทราย เรี่ยราด ร่วงลงพื้นถนน กระทบชาวบ้านสัญจรไปมา จนเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ล่าสุดได้เกิดเหตุการณ์ระทึกขณะที่น.ส.ชฎาภรณ์ ประชาเยี่ยม อายุ 40 ปี ผู้เสียหาย ได้ขับรถยนต์ส่วนตัว ยี่ห้ออีซูซุ แค็ป สีฟ้า ทะเบียน บจ 9520 นครพนม มาตามถนน สาย ท่าอุเทน – นครพนม มุ่งหน้าไปยัง ตัวเมืองนครพนม ถึงบริเวณใกล้ที่ว่าการอำเภอ ได้มีรถบรรทุก 10 ล้อ พ่วง บรรทุกหิน ไม่ปิดคลุมผ้าใบ ทำหินร่วงใส่กระจกหน้ารถ ทำให้แตกเสียหาย โชคดีคนขับตั้งสติได้ รีบจอดรถ จึงไม่เกิดอุบัติเหตุ บวกกับในช่วงที่เกิดเหตุไม่ได้ใช้ความเร็ว จึงปลอดภัย แต่กระจกรถยนต์ ได้รับความเสียหาย จึงได้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ กับ ตำรวจ สภ.ท่าอุเทน เพื่อตรวจสอบ เก็บหลักฐาน และเร่งติดตามรถคันดังกล่าวมาดำเนินคดี และรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยชาวบ้านในพื้นที่ยังระบุว่า ปัญหารถบรรทุกหินทราย สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน มานานหลายปี เนื่องจาก พื้นที่ดังกล่าว มีกิจการท่าหิน ท่าทราย จำนวนมาก ทำให้ทักวันมีรถบรรทุก จำนวนมาก วิ่งบรรทุกหิน บรรทุกทราย ตลอดทั้งวัน สร้างความเดอืดร้อนรำคาญ เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ยอมคลุมผ้าใบ ใช้ความเร็วสูง และยังสร้างมลภาวะ ทั้งฝุ่น ทั้งโคลน เต็มพื้นถนน และยังมีปัญหาหินร่วงถูกกระจกรถเสียหาย แทบทุกวัน เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เคยร้องทุกข์หลายหน่วยงาน แต่ไม่ได้รับการแก้ไข จนกระทั่งครั้ง จึงออกมาร้องทุกข์ผ่านสื่อ สะท้อนปัญหาไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแล แก้ไขเร่งด่วน
น.ส.ชฎาภรณ์กล่าวว่า สำหรับปัญหาความเดือดร้อนเรื่องรถบรรทุกหินบรรทุกทราย ที่สัญจรไปมา บริเวณถนนสาย อ.ท่าอุเทน นครพนม เชื่อมไปยัง อ.บ้านแพง ถือว่าเดือดร้อนมานาน เพราะรถบรรทุกส่วนใหญ่จะมีคลุมผ้าใบ และมีการบรรทุกจนล้นกระบะ ทำให้ หินทราย ร่วงเต็มพื้น ทำให้รถที่สัญจรไปมาเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง เพราะความมักง่าย ล่าสุดตนเจอด้วยตนเอง ขณะขับรถกลับมาจากธุระ มีรถบรรทุกวิ่งนำหน้าทำหินก้อนขนาดใหญ่ ร่วงลงจากรถถูกกระจกหน้ารถแตกเสียหาย โชคดีตนขับช้าตั้งสติได้จึงจอดรถมาดูพบกระจกหน้าแตกเสียหาย หากตนขับเร็วมีโอกาสหินทะลุกระจกเข้าไปถึงคนในรถ และอาจทำให้ตกใจรถเสียหลักเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งชาวบ้านที่ใช้บเส้นทางสายนี้ เดือดร้อนมาก เพราะตนมีอาชีพขายเห็ดริมถนน พบเห็นปัญหาทุกวัน นอกจากนี้บางคันยังขับรถบรรทุกด้วยความเร็ว สร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนร่วมทาง หากไม่เชื่อให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบได้เลย พบเห็นตลอดความมักง่ายของรุบรรทุก ส่วนครั้งนี้กระจกรถยนต์ตนเสียหาย ได้แจ้งความและวิงวอนตำรวจให้เร่งหาผู้กระทำผิดมารับผิดชอบให้เร็วที่สุด และขอเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแลแก้ไข เพราะหากปล่อยไว้อาจจะไม่แค่กระจกแตก อาจมีเจ็บตายรายวัน เพราะแต่ละวันมีชาวบ้านเดือดร้อนจากรถบรรทุกหิน ทราย ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย หลายราย แจ้งความร้องทุกข์ไปสุดท้ายเงียบ หาคนมารับผิดไม่ได้ ครั้งนี้จึงต้องร้องเรียนผ่านสื่อสะท้อนไปยังทุกหน่วยงานมาดูแลแก้ไข
