จากกรณีชาวบ้านพบความผิดปกติการซื้อปัจจัยการผลิตโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อฟื้นฟูอาชีพด้านการเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดในหลายพื้นที่ของ จ.กาฬสินธุ์ราคาสูงกว่าท้องตลาด โดยเฉพาะ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด และ อ.นาคู อ.กุฉินารายณ์ อ.ห้วยผึ้ง เขาวง และ อ.สมเด็จ เนื่องจากมีการจัดซื้อปัจจัยการผลิตราคาแพงกว่าท้องตลาด จนชาวบ้านต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าร้องทุกข์กับพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์ดำรงธรรมเรียกร้องให้ตรวจสอบ กระทั่งนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และหากพบการทุจริตจริงก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที
ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 พ.อ.มานพ ไขขุนทด รอง.ผอ.รมน.กาฬสินธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการ 9101 ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวภายหลังได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานต่างๆประกอบด้วย สำนักงานเกษตรจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด ประมงจังหวัด เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด เพื่อร่วมกันสรุปผลการตรวจสอบโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการฟื้นฟูด้านการเกษตรแก่เกษตรผู้ประสบภัยน้ำท่วม ปี 2560 จ.กาฬสินธุ์ ของ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ว่า หลังจากได้รับการร้องเรียน ทางนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบจริงในพื้นที่ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ โดยตรวจสอบการกำหนดราคาการจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว และการกำหนดราคาซื้ออาหารปลาที่ราคาสูงกว่าท้องตลาด การกำหนดซื้อปุ๋ยอินทรีย์แต่นำสารปรับปรุงดินไปแจกจ่าย การจัดส่งพันธุ์กบผิดสเปก รวมทั้งหลักฐานการเปิดบัญชีธนาคาร หนังสือสัญญาซื้อขาย หลักฐานการจ่ายเงิน และหลักฐานใบเสร็จรับเงินของร้านคู่สัญญา ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมทั้งเอกสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว
พ.อ.มานพ กล่าวว่า โดยผลสรุปของคณะกรรมการพบว่าคณะกรรมการระดับชุมชน ซึ่งมีผู้นำชุมชน 16 คน และข้าราชการอีก 1 คน รวมทั้งหมด 17 คน ในพื้นที่ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ มีพฤติการณ์ดำเนินการจัดซื้อปัจจัยการผลิตโดยมิชอบ จงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผน และหลักเกณฑ์ที่ที่กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนด ทำการจัดซื้อวัสดุปัจจัยการผลิตที่แพงกว่าราคาตามท้องตลาด ดำเนินโครงการไม่เป็นไปตามแผนปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณ เอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง พวกพ้อง และนายทุน สร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วม และสร้างความเสียหายเชื่อเสียงของ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวจึงถือเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง เข้าข่ายผิดกรณีการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ ตามมาตรา 85 (1) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551
พ.อ.มานพ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการได้สรุปผลสอบรายงานไปยังนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อพิจารณา และรายงานไปยังเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร แม่ทัพภาค 2 กอ.รมน.กองทัพภาคที่ 2 แล้ว พร้อมกับสรุปผลสอบส่งไปยัง ปปท.เขต 4 ขอนแก่น และหน่วยงานต้นสังกัด ทั้งปกครองจังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัด เพื่อดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนกฎหมาย ส่วนในเรื่องร้านค้า ซึ่งเป็นคู่สัญญากับชุมชนบัวบานนั้น ได้ส่งเรื่องไปยังสรรพากรพื้นที่กาฬสินธุ์ และสำนักงานพาณิชย์จ.กาฬสินธุ์ดำเนินการเข้าตรวจสอบต่อไป
