คิวเฮ้าส์ยังไม่สนอีอีซี มองเก็งกำไรดันราคาที่ดินพุ่ง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือคิวเฮ้าส์ เปิดเผยว่า บริษัทยังไม่มีแผนที่จะลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เพราะในช่วงแรกจะเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ก่อนในระยะ 3-4 ปี ทั้งนี้ พบว่าราคาที่ดินในพื้นที่ปรับขึ้นไปสูงจากการเข้าไปเก็งกำไร ทำให้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยากขึ้นจากต้นทุนที่ดินที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี บริษัทยังเดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ รองรับความต้องการที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น

นายชัชชาติกล่าวว่า ปีนี้มีแผนจะเปิดโครงการใหม่ 13-15 โครงการ มูลค่าราว 13,000-15,000 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านแนวราบทั้งหมด ทั้งทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยว ราคาเริ่มต้น 3-40 ล้านบาท เน้นจับกลุ่มลูกค้ามนุษย์เงินเดือนเป็นหลักเพราะมีรายได้ประจำ ขณะที่ลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) กำลังซื้อชะลอไปเพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจก่อนหน้านี้ สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงที่เหลือของปีคาดว่าจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไปไม่หวือหวามากนักจากกำลังซื้อในประเทศ ขณะที่กำลังซื้อต่างประเทศที่เข้ามาก็ยังมีอยู่ในกลุ่มคอนโดมิเนียม

“ขณะนี้อสังหาฯยังมีโอเวอร์ซัพพลายในบางทำเล โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่มีการพัฒนาพร้อมกันจำนวนมาก แม้จะขายช้าแต่ไม่ใช่ภาวะฟองสบู่ ซึ่งต้องใช้เวลาในการระบายสต๊อก สำหรับบริษัทมีพอร์ตคอนโดมิเนียมเหลือขายอยู่ราว 10,000 ล้านบาท จากราว 10 โครงการ โดยบริษัทมีการระบายสต๊อกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งบางโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง บริษัทจึงกลับมาเน้นเปิดโครงการแนวราบที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญมากกว่าก่อน และการพัฒนาโครงการแนวราบสามารถพัฒนาไปทีละเฟสได้ ขณะที่คอนโดมิเนียมต้องขายและสร้างเสร็จทั้งตึก ทำให้มีความเสี่ยงพอสมควรและใช้เงินลงทุนสูง” นายชัชชาติกล่าว 

นายชัชชาติกล่าวว่า สำหรับไตรมาสแรก 2561 บริษัทมีรายได้รวม 3,738 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 2,929 ล้านบาท รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ 333 ล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 417 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 59 ล้านบาท โดยรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและรายได้ค่าเช่าและค่าบริการเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 844 ล้านบาท ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดขายโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,988 ล้านบาท

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image