กรณีเฟซบุ๊กเพจ แหม่มโพธิ์ดำ เผยแพร่เรื่องราวของน.ส.ศศิวิมล(สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกคนขับแท็กซี่ที่วิน อ.หัวหิน ทำร้ายร่างกายจนหัวแตก เพราะไปแชร์ข่าวเรื่องคลิปคนขับแท็กซี่ประกาศจะกระทืบแกร็บทุกคันที่หัวหิน (ดูคลิปต้นเหตุได้จากเฟซบุ๊กเพจแหม่มโพธิ์ดำ)
โดยหญิงสาวได้โพสต์เรื่องราวและภาพดังนี้
หญิงสาวรายนี้ระบุว่า สืบเนื่องจาก เมื่อเร็วๆ นี้ หญิงสาวผู้เสียหายได้แชร์และแสดงความคิดเห็นในคลิปคนขับแท็กซี่ที่ประกาศว่าจะกระทืบคนขับแกร็บที่หัวหิน ทำให้คนขับแท็กซี่ดังกล่าวจำหน้าได้ และได้ทำร้ายร่างกายดังกล่าว
น.ส.ศศิวิมล ซึ่งถูกทำร้าย เปิดเผยว่า เหตุเกิดจากการที่ตนไปแชร์คลิปที่สมาชิกเฟซบุ๊กเพจกลุ่มพลเมืองหัวหินนำมาโพสต์แชร์ต่อ ตนนำมาแชร์ต่อพร้อมเขียนข้อความว่า “ถ้ากฎหมายบ้านเมืองยังเป็นแบบนี้ ก็จะมีการอัดคลิปขู่ทำร้ายร่างกายกันอยู่แบบนี้” ซึ่งความเห็นของตน เป็นการแสดงเห็นกว้างๆ โดยไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าเป็นเขา จากนั้น 4-5 วันต่อมาก็มีพี่ที่ทำงานมาเตือนว่ามีคนกำลังตามหาอยู่ เพราะตนไปแชร์ไปเมนต์มา ตอนนั้นก็ยังไม่ได้เอะใจว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงอะไรเพราะคิดว่ามีการแชร์กันหลายคนแถมอัดคลิปมาแบบนั้นก็ต้องหวังให้คนแชร์ต่ออยู่แล้ว แถมตนก็ไม่ได้คอมเมนต์อะไรรุนแรง เป็นแค่การให้ความเห็นกว้างๆ ต่อมามีการโพสต์ถึงตำแหน่งของวินที่แท็กซี่คนนั้นประจำอยู่ ตนก็ไปคอมเมนต์ต่อ ใต้คอมเมนต์ฮาๆ คอนเมนต์หนึ่ง ทำนองว่าตนเดินผ่านวินนั้นประจำ พี่เขาจะดักตีเราหรือเปล่า แต่ตนก็ไม่ได้โพสต์อะไรที่ไปต่อว่าเขา
น.ส.ศศิวิมล กล่าวต่อว่า ในกลุ่มพลเมืองหัวหิน มีคนขอความเห็นเรื่องแกร็บคาร์ ตนก็ได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นว่าไม่เคยใช้บริการแกร็บคาร์ เคยแต่นั่งแกร็บไบค์ซึ่งตนบอกไปว่าคุยดี มารับถึงที่ ไม่บิดเร่งเครื่อง ไม่ขับกระตุกและราคาไม่แพง พอมีคนถามว่าพอรู้ราคาแกร็บคาร์ไหม ตนก็บอกว่าไปเช็กให้ พอตนไปเช็กแล้วก็มาตอบว่าราคาไม่แตกต่างจากแท็กซี่ในกรุงเทพฯ ซึ่งก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรที่ไปตำหนิใคร เราแค่แสดงความคิดเห็นในฐานะที่เคยใช้บริการแกร็บไบค์ แต่หลังจาก 2-3 วันคือเมื่อเวลา 19.30 น.ของวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตนก็ถูกผู้ชายในคลิปทำร้ายร่างกาย เหตุการณ์เกิดขณะตนเดินกลับไปทำงานที่โรงแรมซึ่งต้องเดินผ่านแท็กซี่วินดังกล่าว ปรากฏว่าผู้ชายในคลิปพูดด้วยน้ำเสียงกร้าวๆ ว่าเดินให้ดีๆ หน่อย ตนเลยหันไปถามว่าเดินให้เดินดีๆ หน่อยเป็นอย่างไร พูดแบบนี้จะข่มขู่กันหรือ แล้วจากนั้นเข้าใจว่าตนถูกชกล้มหงายหลัง หัวฟาดพื้นเพราะไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเข้ามาปะชิดตัวเมื่อไหร่ไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีตอนที่ล้มหงายหลังแล้ว พักใหญ่ๆ ถึงลุกขึ้นมาได้โดยไม่มีใครเข้ามาช่วย ได้ยินแต่เพื่อนของเขาพูดว่า พี่ไปเถอะเดี๋ยวผมจะรับผิดเอง แล้วคู่กรณีก็ขับหายไปเลย ตอนแรกตนไปบันทึกประจำวันที่สน.หัวหิน จากนั้นกลับไปเซ็นใบแจ้งความอีกครั้งตามที่พี่คนหนึ่งแนะนำ ครั้งที่ 2 ที่กลับไปที่สน.เลยเจอพี่ชายของคู่กรณีที่เป็นเจ้าของร้านอาหารซึ่งมาลงบันทึกประจำวันว่าทางร้านไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“สำหรับอาการบาดเจ็บ มีศีรษะแตกด้านหลัง แย็บ 3 เข็ม กระพุ้งแก้มแตก เย็บ 2 เข็ม มุมปากมีบาดแผลเลือดไหลซึ่งเมื่อคืนทำแผลที่โรงพยาบาลแล้วกลับบ้าน ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้วอย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คงไม่มีการไกล่เกลี่ยยอมความ เพราะกรณีที่เกิดขึ้นกระทบต่อความปลอดภัยในการใช้ชีวิตซึ่งคงไม่สามารถอยู่ทำงานที่หัวหินต่อไปได้ จะต้องสูญเสียทั้งอาชีพ เงินเดือนและโบนัสปลายปี ฉะนั้นจึงไม่อาจยอมความได้” น.ส.ศศิวิมล กล่าว
ขอบคุณคลิปจากเฟซบุ๊กเพจแหม่มโพธิ์ดำ
