นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวชี้แจงกรณีที่มีการแชร์ข้อความในโซเซียลมีเดียเกี่ยวกับ ปตท. และอ้างว่า นายเทวินทร์เป็นผู้ให้สัมภาษณ์ จนเกิดกระแสการให้หยุดเติมน้ำมันปตท.นั้น ยืนยันว่าผมไม่เคยพูดอย่างนั้นโดยสัตย์จริง เพราะปตท. มีหน้าที่ดูแลด้านความมั่นคงด้านพลังงานและดูแลผลประโยชน์ของรัฐ ผู้บริโภค ผู้ค้า สังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อมให้สมดุลกัน ซึ่งทั้งผมเองและทุกคนในปตท. ไม่มีใครพูดอย่างนั้นแน่นอน เป็นการนำเอาข้อความเท็จมาเผยแพร่และมีเจตนาที่ไม่ดี
ขณะที่การกล่าวอ้างว่าจะมีลดพนักงงานนั้น ช่วงที่ 4-5 ปีที่ผ่านมา ราคาน้ำมันปรับลดลงจาก 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ราว 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล บริษัทในกลุ่มปตท.เจอปัญหามากมายแต่ไม่เคยลดพนักงานด้วยการอ้างเหตุผลนี้ ส่วนกรณีกำไรของปตท. หากพิจารณาตัวเลขที่ 1.3 แสนล้านบาท นั้น ก็ถือว่าสูงหากมองแค่ตัวเลข แต่ธุรกิจน้ำมันเป็นธุรกิจที่มีการลงทุนสูง เช่นกัน ปโดยปัจจุบัน ตปท.มีสินทรัพย์ 2.3 ล้านล้านบาท มียอดขาย 2 ล้านล้านบาทต่อปี ดังนั้นหากมีกำไร 1.3 แสนล้านบาท จะคิดเป็นผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (อาร์โอเอ) 6.7% ซึ่งถ้ามีการเปรียบเทียบกับบริษัทชั้นนำถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทอื่น ๆ
ด้านผลกระทบต่อขาย ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบต่อยอดขายจากกระแสโซเชียลที่ต่อต้านการเติมน้ำมันในปั๊มปตท. โดยปัจจุบันปตท. มีปั๊มอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 1,500 แห่ง ซึ่ง 90% เป็นดีลเลอร์ มีเพียง 10% เป็นปั๊มที่ปตท. ดำเนินเอง ดังนั้นจึงมีความเป็นห่วงดีลเลอร์จำนวนมากที่อาจได้รับผลกระทบมากกว่า ทาง ปตท.จึงอยากชี้แจงให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริงเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
“ฝ่ายกฎหมายของ ปตท. อยู่ระหว่างการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่มีเจตนาไม่หวังดีส่งข้อมูลอันเป็นเท็จสร้างความเสียหายแก่องค์กร โดยที่ทำไม่ได้ทำเพราะทำเจ็บแค้น แต่ทำเพราะเอาผิดกับผู้กระทำและผู้กระทำต้องมีความรับผิดชอบต่อการกระทำ” นายเทวินทร์ กล่าว
