นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ร่วมกับธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารธนชาต ธนาคารยูโอบี และธนาคารออมสิน โดยมีระยะเวลา 2 ปี ซึ่งปตท. จะร่วมทั้ง 9 ธนาคาร กำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินงานในการส่งเสริมและผลักดันการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินของทั้งสองฝ่าย ผลักดันการปรับปรุงและพัฒนาระบบทางการเงิน เช่น ระบบการประกันภัย อนุพันธ์ทางการเงิน ธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ การทำธุรกรรมทางการเงิน รวมทั้งการปรับปรุง กฎและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินงาน รวมทั้งการมองหาคู่ค้าที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน เพื่อต่อยอดและขยายการดำเนินงานในเชิงพาณิชย์ต่อไป
“ปตท.เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในด้านดิจิทัล จะกระทบกับธุรกิจของปตท. ในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ระดับหนึ่ง ซึ่ง ปตท.มีหน่วยงานด้านดิจิทัลอยู่แล้วแต่ด้วยพฤติกรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปเร็ว มีสมาร์ทโฟน โซเชียลมีเดียเข้ามา มีบริการ 3G/4G และ 5G ในอนาคต ซึ่งปัจจุบันลูกค้ามีการทำธุรกรรมบนมือถือมากขึ้น ถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยนไปอยู่บนมือถือ ก็จะทำให้ไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ เมื่อปตท. รู้ว่าลูกค้าอยู่ตรงไหน มีความต้องการอะไร เมื่อมารวมกับธนาคารต่าง ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลอยู่แล้ว จะมีการร่วมพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ร่วมกัน และหาโซลูชั่นใหม่ ๆ ตอบสนองความต้องการผู้บริโภค อาทิ บล็อกเขน คิวอาร์โค้ด อินเตอร์เน็ตออฟติงหรือ ไอโอที รวมทั้ง ดาต้า เป็นต้น เพื่อเสริมสร้างความสามรถในการแข่งขัน ทำให้ต้นทุนลดลง และสร้างความสะสวกสบายให้กับลูกค้า” นายชาญศิลป์ กล่าว
