สกัด 3 ศิษย์พา ‘พรหมเมธี’ หนี สอบลึกรายได้ที่ดิน -โฉนด เล็ง 157 เอาผิด สาวพิรุธได้สมณศักดิ์ไม่ผ่านเปรียญ

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามตัว พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร 2 พระเถระผู้ใหญ่ที่ตกเป็นผู้ต้องหาฐานร่วมกันฟอกเงินในคดีเงินทอนวัด ว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 28พฤษภาคม ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนประสานไปยัง ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ให้เฝ้าระวังการเดินทางออกนอกประเทศของ ชายไทย 1 คน หญิงไทย 1 คน และหญิงสาวชาวลาวอีก 1 คน เนื่องจากเป็นศิษย์ที่มีความใกล้ชิดกับ พระพรหมเมธี โดยเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับการให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนี ซึ่งก่อนหน้านี้ชุดสืบสวนตรวจสอบพบว่าบุคคลทั้ง 3 หายไปจากที่พักและขาดการติดต่อ หลังจากที่ พระพรหมเมธี หลบหนี

รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้ในส่วนของ พระพรหมสิทธิ และพระพรหมเมธี นั้น ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ สตม. ได้นำหมายจับเข้าระบบเฝ้าระวังของด่าน ตม. ทั่วประเทศไว้แล้ว โดยไม่พบหลักฐานการเดินทางเข้าออกนอกประเทศเลย ในส่วนของ ชายและหญิง ต้องสงสัย 3 คน ก็ได้ประสานให้เฝ้าระวัง หากพบบุคคลที่เฝ้าระวังทั้ง 3 คนแม้ว่าจะยังไม่มีหมายจับก็ให้ประสานแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯได้ทันที

มีรายงานด้วยว่า สำหรับการพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับพระที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ฐานร่วมกันฟอกเงินแล้ว ผู้บังคับบัญชาในระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้สั่งการให้ขยายผลไปยังคดีอื่นๆอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าที่ดินของวัดหรือที่ธรณีสงฆ์ โดยตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าเงินที่ได้รับนั้นเข้าสู่บัญชีวัดหรือบัญชีส่วนตัวของพระแต่ละรูป และมีการออกใบเสร็จรับเงินอย่างถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นของวัดสามพระยาที่ค้นพบโฉนดที่ดินของฆราวาสญาติโยมจำนวนมากอยู่ในกุฏิของอดีต พระอรรถกิจโสภณ เลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพฯ วัดสามพระยา ที่ขณะนี้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ ว่าเกี่ยวข้องกับการรับจำนองโฉนดที่ดินหรือออกเงินกู้ด้วยหรือไม่

Advertisement

ขณะเดียวกันในส่วนของพนักงานสอบสวนกองปราบฯนั้นกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าอาจจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มกับ อดีตพระพรหมดิลก หรือ เอื้อน หาสธมฺโม อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เพิ่มเติมด้วย เนื่องจากการดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสนั้นถือเป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยตำแหน่ง

ทั้งนี้ชุดสืบสวนกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติของพระชั้นผู้ใหญ่ทั้ง 3 รูป เพื่อประมวลข้อมูลเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมณศักดิ์และตำแหน่งทางการปกครองของสงฆ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก่อนจะส่งมอบให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นำเสนอต่อมหาเถระสมาคม (มส.) เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการพิจารณาถึงความเหมาะสมในตำแหน่งของพระทั้ง 3 รูปด้วย ทั้งนี้ในเบื้องต้นชุดสืบสวนพบว่า พระพรหมสิทธิ และพระพรหมเมธี นั้นจบการศึกษาชั้นนักธรรมเอก แต่ไม่ได้เล่าเรียนบาลีหรือเปรียญธรรมมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องแปลกในวงการสงฆ์ที่พระทั้ง 2 รูป ซึ่งไม่ได้จบเปรียญธรรมแม้แต่ประโยคเดียวแต่สามารถขึ้นมาถึงระดับรองสมเด็จพระราชาคณะในชั้นพรหมได้ ซึ่งเรียกได้ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนยิ่งไปกว่านั้นพระผู้ใหญ่ทั้งสองรูปยังมีอาวุโสน้อยมากหากเทียบกับพระสงฆ์รูปอื่นๆในมหานิกาย ต่างจากอดีตพระพรหมดิลกที่จบเปรียญธรรม 9 ประโยคซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image