มงคลเมือง

บรรดาเมืองทั้งหมดในประเทศไทย ในความรู้สึกของผู้เขียน รู้สึกว่า เมืองลพบุรี เป็นเมืองที่ถูกเลือก ให้เป็นเมืองหลวงของประเทศอยู่ตลอดเวลา เช่นตามหลักฐานทางพงศาวดารกัมพูชาว่า เมื่อปี พ.ศ.620 เมืองไทยมีชื่อเมืองกัมโพชนครแล้ว ก็น่าจะเป็นเมืองลพบุรีนี่แหละ

แต่ปี พ.ศ. และหนังสือพงศาวดารตามที่กล่าวมา อาจจะดูไม่น่าเชื่อถือเท่าที่ควร แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะถ้าพระพุทธองค์มาประทับรอยพระบาทจริง ความก็อาจจะเป็นไปได้ พอมาถึงพุทธศตวรรษที่ 12 จัดเป็นยุคประวัติศาสตร์แล้ว เพราะมีบันทึกเป็นหลักฐานในเรื่องพระนางจามเทวีว่า ท้าวกัมโพชเจ้าเมืองกัมโพช
คือละโว้ ได้ส่งพระนางจามเทวี ไปครองเมืองหริภุญไชย คือลำพูน พอตกมาถึงพุทธศตวรรษที่ 17 กลับเป็นเมืองหน้าด่านของขอม และชื่อเมืองก็เปลี่ยนไปเป็นเมืองละโว้

เมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองหลวง เมืองละโว้ก็เป็นเมืองที่ประทับของพระราเมศวร พระราชโอรสของพระเจ้าอู่ทอง จากนั้นก็มาเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และพระนารายณ์พระองค์ได้เปลี่ยนนามเมืองจากละโว้ เป็นเมืองลพบุรี ถึงแม้ในช่วงนั้น กรุงศรีอยุธยาจะยังเป็นเมืองหลวงอยู่ แต่เมื่อศูนย์อำนาจการปกครองบ้านเมืองมาอยู่ที่เมืองลพบุรี ก็เท่ากับว่าเป็นเมืองหลักของบ้านเมือง

Advertisement

พอมาถึงยุครัตนโกสินทร์ ลพบุรีก็สงบเงียบ มิได้เป็นเมืองสถิตศูนย์อำนาจเหมือนเก่า เมื่อบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย จอมพล ป. พิบูลสงคราม นำกองทหารไปตั้งที่เมืองนี้ ดังนั้น เมืองลพบุรี ทุกวันนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองทหาร

การที่เมืองลพบุรีเป็นเมืองที่ถูกเลือกให้เป็นเมืองที่ประทับของพระราชาในหลายครั้งสืบมานั้น ในความรู้สึกของผู้เขียน ก็น่าจะมาจากลพบุรีมีสิ่งอันเป็นมงคลของเมือง สิ่งอันเป็นมงคลของเมืองคืออะไร? สิ่งอันเป็นมงคลของเมืองลพบุรีนั้น คือ รอยพระพุทธบาท ที่เขาวงพระจันทร์ อำเภอโคกสำโรง ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาประทับไว้ ณ ยอดเขาสัจพันธ์ แต่สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์นี้ กลับต้องถูกลืมเลือน เพราะศาสนาฮินดูสมัยขอมนำลิงมาเลี้ยงเพื่อสื่อว่าเป็นทหารพระราม

และเมื่อมีการค้นพบในสมัยอยุธยาแล้ว สถานที่นี้กลับถูกปฏิเสธเพราะความเข้าใจผิดอีกเป็นเวลาเกือบสามร้อยปี

Advertisement

ประวัติความเป็นมาของรอยพระพุทธบาทองค์นี้ ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกภาษาไทย ชื่อพระสูตรและอรรถกถา เล่มที่ 23 ในพระสูตรชื่อ ปุณโณวาทสูตร หน้า 436-449 ความโดยสรุป ตามที่ผู้เขียนสันนิษฐานชื่อสถานที่ ไว้ว่า นายปุณณะ เป็นชาวเมืองสุนาปรันตะ คืออาณาจักรจามในอดีต และเป็นเวียดนามในปัจจุบัน
ได้เดินทางไปค้าขายที่เมืองแม่คืออินเดีย ได้พบพระพุทธเจ้าฟังธรรมแล้วเกิดความเลื่อมใส จึงขอบวช เมื่อบวชแล้ว ประสงค์จะไปบำเพ็ญสมณธรรมที่บ้านเกิด คืออาณาจักรจาม ซึ่งในสมัยนั้น ชื่อสุนาปรันตะ เมื่อพระพุทธองค์ประทาน อารมณ์พระกัมมัฏฐานให้แล้ว ท่านก็กลับไปทำกัมมัฏฐานที่เมืองเดิมของท่าน สำเร็จแล้ว ก็ทูลอาราธนาพระพุทธองค์เสด็จไปโปรดชาวสุนาปรันตะ พระพุทธองค์เห็นพระฤษีสัจพันธ์ที่สั่งสอนประชาชนอยู่ที่ภูเขาสัจพันธ์ มีอุปนิสัยจะบรรลุพระอรหันต์ จึงรับการอาราธนาไปโปรดชาวเมืองสุนาปรันตะ เพราะเมื่อจะเสด็จไปเมืองสุนาปรันตะ จะต้องผ่านภูเขาสัจพันธ์

เมื่อทรงโปรดพระฤษีสัจพันธ์สำเร็จพระอรหันต์แล้ว จึงพาท่านไปโปรดชาวเมืองสุนาปรันตะด้วย ตอนเสด็จกลับจากเมืองสุนาปรันตะ หรืออาณาจักรจาม ขณะผ่านแม่น้ำนิมมะทา คือแม่น้ำโขง ทรงประทับรอยพระพุทธบาทไว้ให้พญานาคที่ริมแม่น้ำโขง ทุกวันนี้ยังมีการบูชารอยพระบาทนี้อยู่ พอมาถึงภูเขาสัจพันธ์ พระสัจพันธ์ขอให้พระองค์ประทับรอยพระบาทไว้ พระองค์จึงประทับรอยพระบาทไว้ที่เขาสัจพันธ์ คือเขาวงพระจันทร์ ที่อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ถามว่าเมื่อพระองค์ประทับรอยพระบาทไว้ที่ลพบุรี เหตุไฉน พระเจ้าทรงธรรมจึงไปจำลองพระพุทธบาทไว้ที่สระบุรี เรื่องนี้มีความจริงอยู่ดังจะกล่าวดังต่อไป

เมื่อพระเจ้าทรงธรรมทราบว่า เมืองไทยมีรอยพระพุทธบาทอยู่ ตามคำบอกเล่าของพระลังกา พระองค์จึงให้เจ้าเมืองต่างๆ ค้นหา เจ้าเมืองสระบุรีได้ทราบตามที่นายพรานบุญได้ไปพบ จึงรีบรายงานกราบทูลมาถึงพระองค์ พระองค์คงเสด็จมาทอดพระเนตรแล้ว และคงได้เห็นหลุมพระบาท ที่ไม่มีภาพมงคล 108 แต่ขณะเดียวกันในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยากลับกล่าวว่า พระองค์พบรอยพระพุทธบาทนั้น มีภาพมงคล 108 มีจักรรัตนะเป็นต้น

ผู้เขียนจึงขอสันนิษฐานว่า เมื่อพระองค์ไม่พบภาพมงคล 108 ในหลุมพระบาท จึงไม่ทรงเชื่อ จากนั้น จึงให้ย้ายจุดไปจำลองขึ้นมาใหม่ ณ อำเภอพระพุทธบาท สระบุรี

อนึ่ง มีป้ายจารึกประวัติความเป็นมาของรอยพระพุทธบาทในประเทศไทย ที่ปรากฏอยู่ที่วัดเขาดีสลัก อำเภออู่ทอง จ. สุพรรณบุรี กล่าวไว้ว่า ในสมัยอยุธยา ได้พบรอยพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี และสร้างรอยพระพุทธบาทเป็นลายมงคล 108 ประการครอบทับไว้ในหลุมนั้น เมื่อความไม่สมกันระหว่างพงศาวดารกับประวัติจารึกรอยพระพุทธบาท ที่วัดเขาดีสลัก ผู้เขียนจึงไม่เชื่อความที่กล่าวไว้ทั้งในพงศาวดาร และป้ายประวัติที่เขาดีสลัก

ถามว่า ทำไมไม่เชื่อ

ตอบว่า เพราะผู้เขียนมั่นใจว่า รอยพระบาทที่ลพบุรี เป็นองค์ที่พระองค์มาประทับไว้จริง ก็ในเมื่อในรอยพระบาทที่ลพบุรีไม่มีภาพมงคล 108 เลย ก็แสดงว่า หลุมพระบาทที่นายพรานบุญพบนั้น ไม่มีภาพมงคล 108 ตามที่พงศาวดารอ้าง อีกทั้งรอยพระบาทที่ลพบุรี ไม่ปรากฏการสลักแผ่นทองเป็นภาพมงคล 108 ครอบทับไว้เลย ดังนั้น จึงกล้ากล่าวว่า การบันทึกไว้ที่วัดเขาดีสลักก็ไม่จริงอีก เพราะเหตุผลดังกล่าวมานี้ ผู้เขียนจึงสันนิษฐานว่า พระเจ้าทรงธรรมได้เสด็จไปทอดพระเนตรที่หลุมพระบาทที่นายพรานบุญพบแล้ว แต่เมื่อไม่เห็นภาพมงคล 108 จึงไม่เชื่อแล้วจึงไปจำลองขึ้นมาใหม่ที่สระบุรี และเพื่อให้คนเชื่อถือ จึงอ้างว่าจำลองภาพมงคล 108 ครอบทับหลุมพระพุทธบาทที่นายพรานบุญค้นพบไว้

ถามว่า ทำไม่เมื่อพระเจ้าทรงธรรมไม่พบลายวิจิตร 108 ประการแล้ว จึงไม่เชื่อว่ารอยพระบาทนี้เป็นองค์จริง ตอบว่า เพราะพระเจ้าทรงธรรมไม่เคยทราบ เรื่องความมหัศจรรย์ของรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ามาก่อน ความมหัศจรรย์เรื่องรอยพระพุทธบาทเป็นอย่างไร? ในคัมภีร์พระไตรปิฎกภาษาไทย ชื่อ พระสูตรและอรรถกถาเล่ม 40 หน้า 271 กล่าวไว้ว่า แท้จริงเจดีย์คือรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ จะปรากฏให้คนเห็นเฉพาะในที่พระองค์อธิษฐานแล้วเหยียบเท่านั้น หาปรากฏทั่วๆ ไปไม่

หมายความว่าเมื่อพระองค์ต้องการให้ผู้ใดเห็นรอยพระบาทของพระองค์ ก่อนเหยียบพระองค์จะอธิษฐานว่า ขอให้ผู้นั้นได้เห็นรอยพระพุทธบาทของพระองค์ แล้วจะทรงเหยียบ

จากนั้นผู้นั้นเท่านั้นจะได้เห็นรอยพระพุทธบาทของพระองค์ สำหรับพระเจ้าทรงธรรม มิได้เกิดร่วมสมัยกับพระองค์ การที่พระองค์จะอธิษฐานว่า ขอให้พระเจ้าทรงธรรมเห็นรอยพระบาทของพระองค์ เป็นไปไม่ได้ ดังนั้น แม้นายพรานบุญจะนำพระองค์ไปทอดพระเนตรที่หลุมพระบาทที่พระองค์ทรงเหยียบไว้ ก็หาได้พบลายวิจิตร 108 ที่ฝ่าพระบาทไม่

อันที่จริงถ้าพระเจ้าทรงธรรมทรงทราบความเรื่องนี้ พระองค์ก็คงไม่ปฏิเสธรอยพระพุทธบาทรอยนั้นเป็นแน่แท้ ด้วยเหตุผลดังว่ามานี้ ผู้เขียนจึงได้ข้อสรุปส่วนตัวว่า บรรดารอยพระพุทธบาทที่ปรากฏในเมืองไทย ถ้ามีภาพมงคลลายวิจิตร 108 อยู่ แสดงว่า เป็นพระพุทธบาทจำลองที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น แต่ถ้าเป็นเพียงหลุมหรือรอย และไม่ปรากฏลายวิจิตร 108 อย่างเช่นรอยพระพุทธบาทที่เขาวงพระจันทร์ อำเภอโคกสำโรง โปรดดูภาพข้างบน ภาพนั้น น่าจะได้รับการพิจารณาว่าพระพุทธเจ้ามาประทับไว้ มากกว่ารอยพระพุทธบาทที่มีลายวิจิตรครบ 108 อันบ่งชัดว่าคนทำขึ้นเอง

ความเป็นมงคลของจังหวัดลพบุรี เพราะรอยพระพุทธบาทเพียงอย่างเดียวไม่พอ ยังมีความเป็นมงคลอันเนื่องมาจากการที่พระพุทธองค์โปรดให้พระสัจพันธ์อยู่สอนประชาชนที่ท่านสอนไว้ผิดตอนเป็นพระฤษีอีก เท่ากับว่าพระพุทธองค์โปรดให้พระสัจพันธ์ประกาศพระพุทธศาสนา ณ ถิ่น อันเป็นประเทศไทยในปัจจุบันนี้
เพราะเหตุนี้เอง กรมพระยาดำรงราชานุภาพ จึงวินิจฉัยว่า อักษรภาษามอญ ที่พบที่พระปฐมเจดีย์ นครปฐม เก่ากว่าอักษรมอญที่เมืองสะเทิม ในประเทศพม่าเสียอีก ทั้งนี้ เป็นเพราะพระพุทธศาสนาได้เข้ามาในเมืองไทยในสมัยพระพุทธเจ้ามีพระชนม์อยู่นั่นเอง

สังคมไทยยอมรับรอยพระพุทธบาทที่สระบุรี แต่เมื่อไปกราบไปพบรอยพระพุทธบาทแล้ว ทุกคนคลางแคลงใจ ทำไมรอยใหญ่นัก! ทำไมรูปลักษณ์เหมือนประดิษฐ์ด้วยฝีมือมนุษย์! ทุกคนหุบปากเงียบ เก็บงำความสงสัยข้างในไว้

ขณะเดียวกันถ้าไปพินิจรอยพระพุทธบาทที่เขาวงพระจันทร์ ลพบุรี ความรู้สึกที่ว่า มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นไม่มี เพื่อความแน่ใจโปรดเงยหน้าไปดูภาพรอยพระบาททั้งสระบุรีและลพบุรีอีกครั้ง แล้วผู้อ่านพิจารณาความรู้สึกของผู้อ่านเองว่าเป็นอย่างไร! ชาวเราจะกราบพระพุทธบาทให้สนิทใจดีไหม!

 

ทวี ผลสมภพ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image