นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า บริการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศ ของไปรษณีย์ไทยในปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตขึ้น 14% คิดเป็นมูลค่า 4,000 ล้านบาท จากปี 2560 ที่มีมูลค่า 3,500 ล้านบาท จากปัจจัยการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ และการเปิดตัวบริการใหม่ๆของไปรษณีย์ โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้เปิดตัวบริการใหม่ ePacket เจาะกลุ่มอีคอมเมิร์ซ ให้บริการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศราคาย่อมเยาว์ สำหรับการจัดส่งสินค้าที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม โดยเริ่มต้นจัดส่งยังจุดหมายปลายทาง 13 ประเทศหลัก ประกอบด้วย สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฮ่องกง เกาหลีใต้ จีน สิงคโปร์ มัลดีฟส์ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน และมาเก๊า โดยอนาคต จะเปิดจุดหมายปลายทางเพิ่มอีก 3 ประเทศ ได้แก่ นิวซีแลนด์ อินเดีย และฟิลิปปินส์ และจะขยายจุดหมายปลายทางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ ePacket จับมือกับ ebay เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ เพื่อให้บริการพ่อค้าแม่ค้าชาวไทย 1 หมื่นราย ที่วางขายสินค้าใน ebay สำหรับ 13 จุดหมายปลายทางแรก ของบริการ ePacket ได้พิจารณาจากความต้องการจัดส่งสินค้าของกลุ่มผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซที่ใช้บริการไปรษณีย์ไทยเป็นหลัก โดย 13 พื้นที่ดังกล่าว ครอบคลุม จุดหมายปลายทางระหว่างประเทศ ในการส่งสินค้าขาออกของอีคอมเมิร์ซ 70-80% ซึ่งครอบคลุมการจัดส่ง 4 ประเทศในอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม และอนาคตจะขยายไปยังฟิลิปปินส์ โดยนอกเหนือจากบริการ ePacket ไปรษณีย์ไทย ยังมีอีก 4 บริการในการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศ ได้แก่ บริการ EMS World จัดส่งสินค้าทั่วโลก 95 ประเทศ บริการ EMS One Price จัดส่ง 39 ประเทศ บริการ Courier Post บริการระดับพรีเมี่ยม จับมือร่วมกับ DHL จัดส่ง 25 ประเทศทั่วโลก และบริการ Logispost World จัดส่งสินค้าสำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ ครั้งละไม่เกิน 200 กิโลกรัม ยัง 34 ประเทศทั่วโลก
“ อีคอมเมิร์ซไทย เติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 10% ขณะที่อีคอมเมิร์ซทั่วโลกเติบโตปีละ 25% การเพิ่มบริการ ePacket เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายอีคอมเมิร์ซโดยตรง ซึ่งราคาจัดส่งจะถูกลง เนื่องจากตุ้นทุนด้านโลจิสติกส์มีอิทธิพลต่อการส่งออกของพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย เพราะอยากสนับสนุนให้คนส่งส่งออกผลิตภัณฑ์มากขึ้น โดย ePacket จะถูกกว่าบริการรูปแบบเดียวกันในตลาด 20-30% ราคาเฉลี่ย 100-400 บาทต่อการจัดส่ง 1 ชิ้น เพื่อให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยมีตัวเลือกมากขึ้น ” นางสมร กล่าว
