กีฬา กระบี่กระบองเป็นการละเล่นของไทย มีมาแต่สมัยอยุธยา : โดย ผดุง จิตเจือจุน

งาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ช่วงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ – 11 มีนาคม 2561 บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ที่ได้จุดกระแสให้ประชาชนคนไทยที่ได้มาเที่ยวในงานนี้ ตื่นตัว แต่งชุดไทยย้อนยุค ระลึกถึงความหลัง สมัย ร.5

ต่อมาก็เกิดกระแสของละครโทรทัศน์เรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ตามมา เกิดปรากฏการณ์กับผู้คนที่ได้ดูละครเรื่องนี้ได้พากันแต่งกายใส่ชุดไทยตามอย่างตัวละครไปตามๆ กัน

ละครเรื่องนี้ นอกจากจะสะท้อนถึงศิลปะ วัฒนธรรมไทย การแต่งกาย และโบราณสถาน วัดวาอาราม ตลอดจนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนแล้ว ยังฉายภาพให้เห็นถึง อาหารการกิน ภาษาพูด และการปกครองในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชอีกด้วย

กระแสของละครมาแรง ถึงกับมีการจัดเสวนาประวัติศาสตร์ยุคพระนารายณ์มหาราช มีการจัดทัวร์ย้อนอดีต ดูประวัติศาสตร์ที่อยุธยา มีผู้คนสนใจแห่กันไปเที่ยวชมโบราณสถานในอยุธยาและลพบุรีกันอย่างมากมาย อย่างไม่เคยมีมาก่อน พลอยให้ร้านเช่าชุดไทยมีรายได้งดงามตามไปด้วย

Advertisement

มีหลายจังหวัดถึงกับจัดงาน “สงกรานต์-บุพเพสันนิวาส” ในรูปแบบย้อนยุค เน้นความเป็นไทยส่งเสริมให้แต่งชุดไทยไปเที่ยวสงกรานต์ รวมทั้งกระทรวงวัฒนธรรมได้ขับเคลื่อนรณรงค์ให้สังคมไทยตื่นตัวและตระหนักในความเป็นไทย ด้วยการเชิญชวนคนไทยแต่งกายด้วยผ้าไทย หรือผ้าพื้นเมืองกัน และรัฐยังอำนวยความสะดวกให้ประชาชนแต่งกายชุดไทยถ่ายทำบัตรประชาชนได้อีกด้วย

นอกจากละคร “บุพเพสันนิวาส” เป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของไทยแล้ว ยังมีภาพยนตร์อีกหลายเรื่องถ่ายทำเรื่องประวัติศาสตร์เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่ายบางระจัน เมืองสิงห์บุรี มีนายจัน หนวดเขี้ยว, นายทองเหม็น, นายทองแสงใหญ่, ขุนสรรค์ และพันเรือง ออกมารบกับพม่าที่ยกทัพมาตีค่าย สู้ถวายชีวิตจนกลายเป็นวีรบุรุษ หรือในสมัยกรุงธนบุรี พม่ายกทัพขึ้นไปตีเมืองพิชัย เมืองอุตรดิตถ์ พระยาพิชัยเจ้าเมือง ถือดาบสองมือคุมพลทหารออกไล่ฟันพม่าจนดาบหัก ได้รับขนานใหม่ว่า พระยาพิชัยดาบหัก

จะเห็นได้ว่าชาวบ้านทหารยุคเก่าก่อนล้วนเก่งชำนาญการใช้กระบี่กระบองเป็นอาวุธสู้รบกับพม่า เสียดายภาพยนตร์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไม่สามารถจุดเรื่องกระบี่กระบอง ขึ้นติดเป็น
กระแสได้ดังเช่นเรื่องละครบุพเพสันนิวาส

Advertisement

ความจริงกระบี่กระบองเป็นอาวุธใช้ในการศึกสงครามสมัยประวัติศาสตร์ไทย และถือเป็นศิลป์และวัฒนธรรมแขนงหนึ่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นเป็นต้นแบบของความเป็นไทย จะว่าไปแล้วการละเล่นกระบี่กระบองเป็นพื้นฐานเบื้องต้นส่วนหนึงของศิลปะการต่อสู้ที่บรรพบุรุษได้นำเอาศิลปะการต่อสู้นี้ไว้ใช้ป้องกันตัวยามคับขัน และถือเป็นกีฬาประจำชาติไทยมาหลายชั่วอายุคน

หลายคนอาจสงสัยว่าเวลาทหารไทยรบกับพม่า เห็นแต่ทหารกรำดาบ กรำกระบี่ ไม่เห็นถือกระบองเป็นอาวุธสู้รบกับทหารพม่าแต่อย่างใด นายปรีชา อินทาคม ซึ่งจบการศึกษาทางด้านศิลปะการแสดงและการละครเวที และเป็นครูจิตอาสา ตระเวนสอนวิชากระบี่กระบองในโรงเรียนตามจังหวัดต่างๆ ได้อธิบายว่า กระบองเขานำมาใช้เรียกบรรดาอาวุธที่มีความยาวที่ใช้แทงที่มีอยู่ทั้งหมด เช่น พลอง กระบอง ง้าว ทวน หอก โตมร (หอกซัด) เป็นประเภทกระบอง และกระบี่นั้นเขานำมาใช้เรียกบรรดาอาวุธที่เป็นอาวุธสั้นทั้งหลาย เช่น ดาบ โล่ ดั้ง เขน ไม้ศอกสั้น มีดสั้น พระขรรค์ เคียว ขวาน สามง่าม เป็นประเภทกระบี่

นายปรีชายังอธิบายถึงที่มาของกระบี่กระบองอย่างน่าสนใจว่า มาจากเรื่องรามเกียรติ์ที่กำหนดให้ยักษ์ใช้กระบอง ด้วยเห็นว่ายักษ์มีรูปร่างใหญ่โต อุ้ยอ้าย เหมาะที่จะแบกกระบองเป็นอาวุธประจำกาย แล้วให้ลิงซึ่งมีรูปร่างเล็ก ปราดเปรียวว่องไวเหมาะที่จะใช้กระบี่เป็นอาวุธประจำตัว ซึ่งหนุมานเชี่ยวชาญเชิงกระบี่ จึงได้ชื่อว่าเป็นขุนกระบี่วานร

การเล่นกระบี่กระบองจะเริ่มสมัยใด และใครเป็นผู้คิดขึ้นมาไม่อาจทราบได้ แต่พอจะสันนิษฐานได้ว่ากระบี่กระบองแต่เดิมนั้นเป็นอาวุธที่ทหารใช้ในการสู้รบในศึกสงครามครั้งโบราณ เมื่อว่างศึกทหารก็เอาเวลามาฝึกซ้อมเล่นกระบี่กระบองเพื่อแข่งขันกัน ซึ่งน่าจะมีกันมาช้านานตั้งแต่สมัยอยุธยา

สืบมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ มีหลักฐานที่พออ้างอิงได้ คือวรรณคดีในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (ร.2) ในเรื่องอิเหนา กล่าวถึงอิเหนาชำนาญในการกระบี่ และสุนทรภู่แต่งเรื่องพระอภัยมณี กล่าวถึงศรีสุวรรณ น้องชายของพระอภัยมณี เล่าเรียนกระบี่กระบองกับอาจารย์ทิศาปาโมกข์

กระบี่กระบองมาเริ่มรุ่งเรืองในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) ทรงโปรดปรานมากให้มีการเล่นกระบี่กระบองเป็นการสมโภชที่หน้าพระอุโบสถพระศรีรัตนศาสดาราม เนื่องในคราวทรงผนวชเป็นสามเณรของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) ในปี พ.ศ.2409 มาถึงในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ก็ทรงโปรดปรานเช่นกันให้มีการเล่นกระบี่กระบอง นับเป็นยุคสมัยที่กระบี่กระบองเฟื่องฟูนิยมแพร่หลาย จนเกิดค่ายกระบี่กระบองดาษดื่นหลายสำนัก เช่น สำนักดาบพรานนก สำนักดาบบ้านช่างหล่อ สำนักดาบพุทไธสวรรย์ ฯลฯ

การเล่นกระบี่กระบองเริ่มร่วงโรย ลดน้อยถอยลง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.6) และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.7) กระบี่
กระบองค่อยๆ หมดไปเนื่องจากบ้านเมือง ได้เกิดการพัฒนาให้ทันกับความเจริญก้าวหน้าของโลกยุคเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม ฯลฯ

ก็มาได้อาจารย์นาค เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการสมัยอดีต เป็นผู้ฟื้นฟูและอนุรักษ์การเล่นกระบี่กระบองให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้งหนึ่ง และได้นำกระบี่กระบองบรรจุเป็นวิชาสอนในหลักสูตรประโยคผู้สอนพลศึกษา ในปี พ.ศ.2479

และปัจจุบันเป็นวิชาบังคับสอนในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งยังคงมีการเรียนการสอนอยู่ทุกวันนี้

ย้อนหลังไปราว 6 ทศวรรษ บรรดาร้านค้าขายของเก่า วัตถุโบราณ แถวหัวถนนสุรวงค์-บางรัก กทม.มักจะเอากระบี่กระบองมาแสดงให้ชาวต่างชาติดูที่หน้าร้าน เพื่อดึงดูดความสนใจให้ฝรั่งเข้าซื้อของนักแสดงกระบี่กระบองที่แสดงให้ชาวต่างชาติดูนั้น ส่วนใหญ่จะใช้เด็กวัยรุ่นแสดง แต่งกายเป็นทหารไทยโบราณดูสวยงาม คาดผ้าประเจียด ตะกรุด เพิ่มความขลัง และบนศีรษะสวมวัตถุมงคลยิ่งดูน่าเกรงขาม

ก่อนจะลงมือเล่นกระบี่กระบอง นักแสดงจะต้องมีการไหว้ครูก่อน โดยมีปี่ชวา กลองแขก และฉิ่ง ขึ้นเพลงไหว้ครู นักแสดงจะร่ายรำไหว้ครู ด้วยลีลาอ่อนช้อยสวยงามไปตามจังหวะเสียงดนตรีบรรเลง สร้างความพึงพอใจแก่ชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก

เมื่อถึงตอนแสดงกระบี่กระบอง ทั้งสองฝ่ายต่างใช้ดาบคู่ ต่อสู้ฟาดฟันจนประกายไฟแลบจากดาบที่ปะทะกันน่าหวาดเสียว นักแสดงต่างใช้ชั้นเชิงห้ำหั่นกันถึงพริกถึงขิง เอี้ยวตัว หลบซ้าย หลบขวา เดินหน้า ถอยหลัง บางครั้งทั้งคู่โชว์ลีลากระโดดตีดาบ ตีลังกาบนอากาศอีกด้วย ชวนตื่นเต้น เสียงประโคมดนตรีก็เร้าใจ เรียกเสียงปรบมือดังเกรียวกราวจากชาวต่างชาติที่ยืนชม

ปัจจุบันการละเล่นกระบี่กระบองแม้จะเป็นวิชาสอนอยู่ในโรงเรียน แต่ก็ไม่แพร่หลาย ไม่เป็นที่นิยมของประชาชน เนื่องขาดการได้รับการสนับสนุนส่งเสริมอย่างเต็มที่จากภาครัฐ ทั้งๆ ที่เป็นกีฬาไว้ต่อสู้ป้องกันตัว เสริมสมรรถภาพทางร่างกายและสร้างจิตใจให้เกิดความกล้าหาญอดทน ฝึกจิตใจให้เป็นคนดีมีศีลธรรมด้วย

กระทรวงวัฒนธรรมควรใส่ใจส่งเสริมกีฬากระบี่กระบอง อย่างจริงจังให้เป็นกีฬาแพร่หลาย เพื่อช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับประเทศ ให้ชาวต่างชาติได้เข้ามาเที่ยวและได้ Amazing Unseen Thailand

ผดุง จิตเจือจุน
วุฒิอาสาธนาคารสมอง จังหวัดสมุทรปราการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image